ข้อความต้นฉบับในหน้า
ประโยค - วิชาชีพกรรมเปล่า ภาค ๑ ตอนที่ ๑ หน้า ๒๔๗
อย่างหนึ่ง อธิษฐานวา - ผู้อธิษฐานเป็นอรรถแห่งปัจจัยพทธ์
วิชาชาด้วย วิชาชานั้นเป็นปัจจัยด้วย เหตุนี้จึงชื่อ วิชาชา-ปัจจัย (แต่วามวิชาชาปัจจัย) (บทว่า วิชาชาปัจจัย แปลว่า) เพราะวิชาชาเป็นปัจจัย
[สังขาร]
ธรรมทั้งหลายใดมุ่งแต่งแต้ม (สิ่งต่าง ๆ) ให้เป็น (อย่าง สังขตะขึ้น เหตุนี้ ธรรมทั้งหลายมันจึงชื่อสังขาร (แปลว่าสังขารผู้ปรุงแต่ง) แต่สังขารมี ๒ อย่าง คือ วิชาชาอัปสังขาร - สังขารที่มี วิชาชาเป็นปัจจัย สังขารที่มาโดยสังขารศัพท์ ๑
ในสังขาร ๒ อย่างนั้น สังขารเหล่านี้คือ บุญฤักสังขาร อนุญ- ฤ kgสังขาร และเมนซากสังขาร เป็น ๓ (กัม) กายสังขาร วิสิทธิสังขาร และจิตสังขาร (อีก ๓ (รวม) เป็น ๖ จัดเป็นวิชาชาอัปสังขาร วิชาชาปัจจัยสังขารทั้งดงนั้น ก็ได้แก่กุศลเจตนาและกุศลเจตนา ฝ่ายโลภะเจตนาเอง ส่วนสังขาร ๔ นี้ คือสังขตสังขาร (สังขาคือสิ่งที่ ปัจจัยของตน ๆ แต่งขึ้น) อภิสิทธิสังขาร (สังขาคือสิ่งที่ก่อรามแต่ง ขึ้น) อภิสิทธิขนสังขาร (สังขาคืออัจรรฆผู้เป็นเจ้าหน้าทีแต่ง)
๑. วิชาชาปัจจูยาม มาทฎีราแปลว่า เพราะปัจจั้กออิวิชา ตลอดถึง ชาติปัจจยา ท่านก็แปลว่า ชาติจขาดา ปุจฉา - เพราะปัจจั้กออิวิชา แต่ในที่น่าทันจึงแปลว่า วิสิทธิครบถ้วน กัมธาระ ก็อเปล่าว่า วิชาชาเป็นปัจจัย ได้กันกับที่เราแปลกันอยู่ อย่างไหนจะชอบด้วยระเบียบไวยากรณ์และภาษา ก็โปรดพิจารณาดีเถิด
๒. มาทฎีว่า แม้อวิชาในวิชาชา ก็มาโดยสังขารศัพท์เหมือนกัน แ ต่ท่านแยกมา กล่าวเป็นปรนาณสังขารในปฏิวสมบูรณ์นานนี้เป็นส่วนหนึ่ง วนหนึ่ง