ข้อความต้นฉบับในหน้า
ประโยค - วิสุทธิมรรค เล่ม ๑ ตอนที่ ๑ หน้า 359
[อัรรถแห่งอัตวาทูปทาน]
นัยเดียวกัน บุคคลทั้งหลายย่อมกล่าวเพราะสิ่งนั้น (เป็นเหตุ)
เหตุนี้ สิ่งนั้นจึงชื่อ ว่า (แปลว่าสิ่งเป็นเหตุทุกข์)
สัตว์ทั้งหลายย่อมถือนั้น แม้เพราะสิ่งนั้น (เป็นเหตุ) เหตุนี้
สิ่งนั้นจึงชื่อ อุปาทาน (แปลว่าสิ่งเป็นเหตุอัตตา)
ถามว่า บุคคลทั้งหลาย ย่อมกล่าวก็ดี ย่อมกล่าวมันก็ดี ซึ่งอะไร ?
ตอบว่า— ซึ่งอัตตา
สิ่งเป็นเหตุกล่าวเป็นเหตุอัตวามั้งชื่อว่าอัตตา คือนิยามว่า อัตตา
อีกอรรถหนึ่ง บุคคลทั้งหลาย ย่อมเอาแต่คำว่านั้น อัตตา
เท่านั้นเอง ว่าเป็นอัตตา เพราะสิ่งนั้น (เป็นเหตุ) เหตุนี้ สิ่งนั้นจึงชื่อ
คัตวาทูปทาน (แปลว่ารื่องเป็นเหตุอันเพียงคำว่า อัตตา)
นี่เป็นอรรถวิวาทแห่งอุปาทานเหล่านั้น เป็นอันดับแรก
[โดยสังเขปและโดยพิสดาร]
ส่วนในบทสังเขปและพิสดารแห่งธรรม (นี้) โดยสังเขป อัน
๑. เพราะอัตตาวรรค ไม่มี มุขวิปัสสนา ชอบช่วยอธิบายว่า อัตวาทูปทานนี้ โดยความ
ก็คืออัญญูที่ปฏิบัติแห่งการบัญญัติคืออัตตานั้น และถือว่าเป็นอัตตาจริง ๆ
อรรถวิโรธแห่งอุปาทานนี้ แปลศัพท์ เข้าใจกันว่า ท่านหย่อนความทำเป็น
สาระต่าง ๆ คิดไม่เห็นเหตุว่าไม่เป็นจะต้องทำให้ต่าง ๆ กัน ให้ยุกยากเช่นนั้น
อุปาทาน เราเคยแปลมาเป็นวาสนาณะ คีแปลว่า "ความ..อย่างเดียว ไม่เคยนิ
ว่าว่าเป็นวาสนอื่นเลย ทั้งนี้ ก็นี้นะจะต้องปรับเข้าไป "รูมภายนอกนาน รู้เนื้อผลอย
รำคาญ" นั่นแหละ นักศึกษาพิจารณาให้ดีคิด
๒. มหาวิกาวินิจฉัยว่า ธมมฺมุงฺเขปวิทฺเทวา นี้เป็นนิทธาระมี สุขเบโด้ และ
วิภาวิโต เป็นนิทธาธนะ