ข้อความต้นฉบับในหน้า
ประโยค - วิวัฒนาการแปล ภาค 3 ตอน 1 - หน้าที่ 13
[อัคคปฏิปัสมิภิกะ]
ในวัฏฏะ นั้น คำว่า "อรรถ" นั้น โดยสังเขปเป็นคำเรียกผลที่
เผิดมานแต่เหตุ จริงอยู่ ผลที่เผิดมานแต่เหตุ ท่านเรียกว่า "อรรถ"
เพราะเหตุที่คือได้บรรลโดยท่านเองแห่งเหตุ (คือเป็นไปตามเหตุ)
แต่ (ว่า) โดยประเภท ธรรม ๕ นี้ คือสิ่งที่เกิดเพราะปัจจัยอย่างใด
อย่างหนึ่ง พระนิบพาน เนื้อความแห่งภาค วิภา กิริยา พิงทราบ
ว่าชื่ออรรถ ความรู้ร้อนถึงความแตกต่างในอรรถนั้น แห่งบุคคลผู้
พิจารณาอรรถนั้น ชื่อว่า อัตปฏิปัสมิภิกะ
[ชมมปฏิปัสมิภิกะ]
คำว่า "ธรรม" นั้นเล่า โดยสังเขปก็เป็นคำเรียกปัจจัย จริงอยู่
ปัจจัย ท่านเรียกว่า "ธรรม" เพราะเหตุที่จะแจงผลนั้น ๆ คือยังผลนั้น ๆ ให้
เป็นไปหรืออำนวยให้จนผลนั้น ๆ แต่ (ว่า) โดยประเภท ธรรม ๕ นี้
คือ เหตุที่ยังผลให้เกิดอย่างใดอย่างหนึ่ง อธิบรรทิวาภาค คูสด
อุคุต พิสูจน์ว่าชื่อธรรม ความรู้ร้อนถึงความแตกต่างในธรรม
นั้นแห่งบุคคลผู้พิจารณาธรรมนี้ ชื่อว่ำมปฏิปัสมิภิกะ
แท้จริง ความ (ที่แสดงอรรถธรรมเป็น ๕ ๆ) นี้แสดง ท่าน
จำแนกแสดงไว้ในอรรถธรรมโดยย่อว่า "ความรู้ในทุกข์เป็นอัตปิปัสมิภิกะ
ภิกขา ความรู้ในทุกข์สุขเป็นมรรคปฏิปัสมิภิกะ ความรู้ในทุกข์นิรมฺ
เป็นอัตปฏิปัสมิภิกะ ความรู้ในทุกข์นิรมฺโรคามิปฏิบาท เป็นอัตปฏิปัสมิภิกะ
ความรู้ในทุกข์นิรมฺโรภา มีปฏิบาท เป็นมรรคปฏิปัสมิภิกะ
ความรู้ในทุกข์นิรมฺโรภา มีปฏิบาท เป็นมรรคปฏิปัสมิภิกะ
ความรู้ในเหตุ เป็นมรรคปฏิปัสมิภิกะ ความรู้ในผลที่ผลิตมาแต่
. จัดพระนิพพานเป็นผลอย่างไรอยู่ ? น่าจะกล่าว "อิสระผล" จะได้ข้ากับ
'อริยธรรม' ในมรรคปฏิปัสมิภิกะ