ข้อความต้นฉบับในหน้า
ดื่มน้ำเย็น ซึ่งมีสร้อยและบรรเทาความเหนื่อยของตนได้ด้วย (ทั้งนี้ก็) เพราะความระเหยในน้ำเย็น จะนั่นแต่ในธรรม (ทั้งสอง) ที่เป็นสีสะในวิถีลูกกัน ในกลางสูตร พระผู้พระภาคเจ้าทรงแสดง (ปฏิญาณบา) เทคนา ยธรรมข้อ เดียวเป็นมูล นี้เช่นอย่างไร เช่นว่า “ดั่งนี้แล ภิกษุหลาย สังขาร ทั้งหลายมีวิบาชาเป็นสาเหตุ วิญญาณมีสังขารเป็นสาเหตุ” ดังนี้เป็นต้น น ยืนเดียวกัน เช่นว่า “ดุกภิษฐ์ทั้งหลาย ต้นหย่อมองดงามแก” บุคคลผู้ชอบเห็นแต่ส่วนที่น่าพอใจในธรรมทั้งหลาย อันเป็นที่สุดแห่ง อุปาทาน อุปาทานมีขึ้นเพราะใจจึงคือดินหา” ดังนี้เป็นคำที่ ในลางสูตรก็ทรงแสดง (ปฏิญาณบา) เทคนา ยธรรมทั้งสองข้อเป็น มูลก็นี้ นี่ชอบอย่างไร เช่นว่า “ดุกภิษฐ์ทั้งหลาย ภายใต้ของคนเดา ผู้มีอวิชชาเป็นเครื่องกัน ประกอบไปด้วยดินหา เป็นไปแล้ว (คือเกิดขึ้น) ด้วยเหตุฉะนี้ กายดังกล่าวนี้ด้วย นามรูปภายนอกด้วย ทั้งสอง นั่นเป็นวิทย์ (คือเป็นคู่กัน) อย่างนี้ เพราะอาศัยวัฒธรรม คือ อายตนะ ๓ นั้นแหละ ผัสสะก็เกิดขึ้น คนเบลาความมีสัมผัสเป็นต้น ไร้่่า กระทบเอาแล้ว ย่อมได้สวยสุขทุกข์” ดังนี้เป็นอาทิ ในเทคนาหล่านั้น เทคนาว่า “อ วิชาอุปออา สุขบาร- สังขาร ทั้งหลายมีเพราะปัจจัยคือวิชา” เป็นดังนี้ เฉพาะในที่นี้พึงทราบว่า เป็นเทคนายที่มีธรรมข้อเดียวเป็นมูล โดย (ยก) อวิชา (เป็นสีสะ)