ข้อความต้นฉบับในหน้า
ประโยค - วิชิตธิมารกเปล ภาค ๓ ตอนที่ ๒๘๖
นับเป็นปัจจัยแห่งอภิสงฆ์ คื อบุญทั้งหลาย โดยประการ ๒ แ ต่ มันเป็นปัจจัยแห่งอภิสงฆ์ข้ อัดไป (คืออุปธรรมสงฆ์) โดยหลายประการ เป็นปัจจัยแห่งอภิสงฆ์ข้อสุดท้าย (คืออญฺญชาขิ สัง- ขาร) โดยประการเดียวแล ในคำสังนั้น คำว่า “เป็นปัจจัยแห่งอภิสงฆ์คือ อญฺญชาขิ สังขาร”
โดยประการ ๒ คือโดยเป็นอารมณ์มณีปัจจัย ๑ โดยเป็นอุปปาสสยปัจจัย ๑ อธิบายว่า อภิชาขิ สังขารนั้นเป็นปัจจัยโดยเป็นอารมณ์มณีปัจจัยแห่งบุญญา- ภิกษุสงฆ์ทั้งหลายฝ่ายมากวร ในกาลที่พิจารณาอธิษฐานโดยความสิ้น ความเสื่อม เป็น--- อารมณ์ปัจจัยแห่งบุญญาสังขารฝ่ายอาวุธว ในกาลที่จะอดึงอิ้นเป็นไปในกิโมะ (ทั้งของตนเองและอื่นๆ) ด้วยอญฺญชาขิ สัง- ขารว่า ออิมโทไปริ ยานเปิ นต้น แต่ว่าเมื่ออุปคลำมณีบุญก็อวี จากวัตถุฝ่ายฝ่ายโดย เป็นอุปลสยปัจจัยกว่าอันแถลงในคำมานะเป็นต้นก็ดี ยังปราจรามทั้งหลายให้เกิดขึ้นก็เพื่อประโยชน์แก่การก่อ ว่างสิ่งอวิตฺาว เข้าร่วมอันทั้งสองนั้นให้เป็นอันมี
เพื่อประโยชน์แก่การก่อว่าสิ งอวิตฺาว มันก็เป็นปัจจัยโดยเป็นอุปปาสสยปัจจัยแห่งบุญญาสังขารทั้งสองนั้น เมื่ออุปคลปราณา สมบัติในกามพลและรูปพลแล้วทำบุญ (ทั้งสอง) นั้นแหละอยู่ เพราะ หลงไปด้วยความไม่รู้ ก็อย่างนั่น (คืออิชาขิ สังขารนั้นเป็น---อุปสสยปัจจัยแห่งบุญญาสังขารทั้งสองนั่นเช่นเดียวกัน)
คำว่า “แต่มันเป็นปัจจัยแห่งอภิสงฆ์ข้ออัดไปโดยหลายประการ” ความว่า อวิชาชยอมเป็นปัจจัยแห่งอญฺญชาขิ สังขารทั้งหลายโดยหลาย