ข้อความต้นฉบับในหน้า
ประโยค - ทุติยสนันปาส้ำกาถกาเปล คร - หน้า 54
ที่เหลือเป็นนามาส (ควรจับต้องได้) และก็ภุชชัยไว้ เพื่อใช้จ่าย
เป็นมูลค่าแห่งสิ่งของ ควรอยู่ แต่ในมาหาปัจจิกล่าวว่า "ประพพ
ที่ขัดเจตตาม มีไปขัดเจตมาม เป็นนามาสทั้งนั้น และจะรับไว้
ไม่ควร."
เงินและทอง แม้เขาทำเป็นรูปธรรมทุกสิ่งทุกอย่าง เป็น
นามาส และเป็นของไม่ควรรับไว้ จำเดิมแต่งเป็นแร้ ได้ยินว่า
อุดรราชโสรส ใ้หสร้างพระเจดีย์ทองส่งไปถวายพระมหาไถ่บรร
พระเจดีย์หามว่า "ไม่ควร." ดอกทุนทองและคาวทองเป็นดั่ง มี
อยู่ที่เรือนพระเจดีย์ แม้สิ่งหลานนั้นก็เป็นนามาส. แต่พวกก็ภูมิ
เรือนพระเจดีย์ดังอยู่ในฐานะเป็นผู้ทรงรูปะ เพราะเหตุนี้ ท่านจึงกล่าว
ว่า "ก็ญูหล่านนับซูบลลัดฎู, คีกระ." แต่คำนั้น ท่านห้ามไว้ใน
กุรุทิ. ท่านอนุญาตแต่เพียงเท่านี้ว่า "จะชำระหยกเอื้ออาทรพระเจดีย์
ทองก็ควรอยู่." ท่านกล่าวไว้ในอรรถกถานังว่า "แมโลหะที่
ก้าให้ลทอง" ก็มีคติจุดทองคำเหมือนกัน จัดเป็นนามาส." ส่วน
เครื่องใช้ฉอในเสนานะ เป็นกัปะปะทั้งสิ้น; เพราะฉะนั้น เครื่อง
แสดงในทุปیฤกษ์ อารภฤกษ์ในทศทูติ สุวณฺฑูโณ กฤติโลหะ สติถมเทพ มิตสุตา กฺสิลโลหะ นาม
แปลว่า โลหะเทียบพิเสมอฟิเทมทองคำชื่อว่า อารภฤกษ์. ก็ โลหะทำเทียมม
๑ อย่าง คือ กังสะโลหะ วัณณโลหะ หารกูโลหะ บรรดาโลหะเหล่านั้น โลหะที่เขาทำ
ผลมิกบูและทองแดง ชื่อว่า กังสะโลหะ. ที่ทำท่ามผสมกั่วและทองแดง ชื่อว่า วัณณ-
โลหะ, ที่ทำท่าผสมปรอทและทองแดง ชื่อว่า หารกูโลหะ.แม้ในสารธาตนี้เปน ๑๓๕
ก็ย่อมความโดยท่านองนี้. ผู้รักษา. น่าจะเป็นสมุหิติ.