ข้อความต้นฉบับในหน้า
ประโยค (ตอน ) - ดูดีสมุทปลาสากนมภาค ๑ หน้า 294
[ว่าด้วยวีรเก่าและการใช้ให้ชัก]
บทว่า อุตโสตมุข มีความว่า ภูมุนิชผูอสมบท ด้วย
อัฐวาจิกรรม คือ ด้วยอัฐติดุตกุรกรรม ในฝ่ายภิญญาสงฆ์ ๑
ด้วยฤทธิ์ติดตุคตรกรรมในฝ่ายภิญญาสงฆ์ ๑
ข้อว่า ลกิ นิวฤติปติ ลกิ ปารติปิ มีความว่า จิรวี่อ้อม
แล้วท่ากัปเปเสร็จ นุ่งหรือห่ม แม้เพียงครั้งเดียว ชั่นที่สุพาดไว้
บนบ่า หรื่อบนศีรษะ โด่มางารใช้ถวยเป็นใหญ่ เดินทางไป หรือ
ว่า หนูศรีนะนอน แม้ว่าร้าน ก็ชื่อว่า จิวาร่าเหมือนกัน. ใน
กรณีท่านกล่าวว่า "ก็ถ้าว่า ภิกขุนอนเอาจิวารไว้ใต้นอน หรือ
เอามือทั้งสองยกขึ้นทําเป็นแพนดา บนอากาศ ไม่ให้ถูกศรีจะเดินไป,
นี้ ยังไม่อธ่าใช้ลย"
ในคำว่า โถว นิฉสุตติ นี้ มิวิรฉาัติ้งค์ :-
ภิกษุที่ถูกภิญญาใช้ของนี้ ย่อมัดเทาไฟ ขนเพนม่า ก่อไฟ
ตักน้ำมา เพื่อประโยชน์แก่การชัก, ย่อมเป็นทุกฤๅนิกฤฎทุกๆ
ประโยชน์ของนางภิญญ์ ตลอดจากที่นางภิญญ์ยกจิวารันนี้ขึ้นซักอยู่
จิวารัน พอชักเสร็จแล้วก็บัน ก็ปีนิลลัสอฺคึ่้, ถ้านางภิญญู่
สำคัญว่า "จิวารังชกไม่สะอาด" จึงเทน่ารำคาญ หรือชักใหม่, เป็นทุกฤๅ
ทุกๆ ประโยค ตลอดเวลาที่ยังไม่เสร็จ. แมในการอ้อมและการขูบ
ก็มีน้อยอย่างนี้. ก็ภิญญ์ เท่าบ่อนในรงสำหรับน้อม แล้ว
ย่อมเพียงคราวเดียว, กระทำอย่างใดอย่างหนึ่งก่อนแต่การเทน้ำ
ย่อมเป็นต้นนั้น เพื่อประโยชน์แก่การอ้อม หรือว่าทายหลัง กลับ