ภูมะนุ่งไหมและจิรารับิฐานในพระพุทธศาสนา ทุติยสมันตปาสาทิกา ภาค 1 หน้า 307
หน้าที่ 307 / 450

สรุปเนื้อหา

บทนี้กล่าวถึงการใช้ภูมะนุ่งไหมและจิรารับิฐานในศาสนาพุทธ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการใช้สิทธิในวัดของชาวบ้านที่สร้างวัดและจัดเตรียมทรัพย์สินต่างๆ สำหรับการทำบุญ เช่น การใช้เครื่องลาพื้นลุ่ง การปลาดเปลือกฟูกอ้างอิงถึงระเบียบการพิธีกรรมและลักษณะของเครื่องใช้ในพระพุทธศาสนา โปรดอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเท่านั้นบน dmc.tv.

หัวข้อประเด็น

-ความหมายของภูมะนุ่งไหม
-การใช้จิรารับิฐาน
-การทำบุญในพระพุทธศาสนา
-ลักษณะเครื่องใช้ในวัด
-การใช้สิทธิของชาวบ้านในวัด

ข้อความต้นฉบับในหน้า

ประโยค(๑) - จุดตอมหินปลาสากแปลง ภาค ๑ - หน้า 306 ควรที่จะภูมะนุ่งไหมได้ไม่รับเอาสิทธิ คือ แม่นุ่งไหมแล้ว ก็ไม่พึงถือ ลักษณะ (ของเขา). บทนี้ บัญฑิตพึ่งราบรับิฐาน ในคำว่า "กิฏฐินเดินไปถึง วัดใดก่อน, ถ้าจิรารับิฐาน หรือของลงมือวันนั้น มืออยู่" เป็นต้นว่า "ที่ชื่อว่า จิรารับิฐาน คือ จิราที่พวกชาวบ้านให้ สร้างวัดแล้ว เตรียมจิรารับิฐานกล่าวว่า "ปัจจัย ๔ เป็นของส่วนตัว ของพวกเราเท่านั้น งถึงการใช้ของ แล้วตั้งไว้ในวัดที่ตนให้สร้าง จิรารับิฐาน ชื่อว่า จิรารับิฐาน. เครื่องปลาดบนเตียง ท่านเรียกว่า เครื่องลากข้างบน. เครื่องปลาดที่ทำด้วยผ้่า เพื่อ้องการจะรักษาพื้นที่ทำ บริการ ท่านเรียกว่า ผ้าลาดพื้น. ภูษา ทั้งหลาย ลาดเสื่ออ่อน บนเครื่องปลาดนั้นแล้ว เดินจรกรม. เปลือก (ปลอก) ฟูกรองเตียง หรือฟูกรองตั้ง ชื่อว่า เปลือก ฟูก. ถ้าเปลือกฟูกเขย่าไว้เต็ม, แม้จะรื้อออกแล้วก็ถือเอา ก็ควร. บรรดาจิรารับิฐานเป็นต้นเหล่านี้ ดังกล่าวมาอย่างนี้ จิราที่มี อยู่ในวัดนั้น พวกภูมะนุ่งถูกโยงจิรารับิฐานไป แม้ไม่อนุญาตจะถือเอานุ่งหรือหมันก็ได้." ก็แล การนุ่งหรือหมันนั้น ย่อมได้ด้วยความ ประสงค์ว่า "เราได้ (ผ้าซึ่งนุ่งหรือผ้าห่มแล้ว) จัดตั้งไว้ คือ จิรารับิฐาน เก็บไว้เองเดิม," ย่อมไม่ได้ โดยการขาดมูลค่า (การถือเอาเป็น กรรมสิทธิของตน). ก็แล ครับได้ (ผ้าผู้หรือผ้าห่ม) อาญาติ หรือ จากอุปฐาก หรือ จากสรรหา แล้วจากที่แห่งใดแห่งหนึ่งแล้ว พึงระทำให้กลับ
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

หนังสือที่เกี่ยวข้อง

Load More