ความหมายของอิทธิประสาทในพุทธศาสนา ทุติยสมันตปาสาทิกา ภาค 1 หน้า 142
หน้าที่ 142 / 450

สรุปเนื้อหา

บทนี้สำรวจความหมายของการไม่เห็น ไม่ได้ยิน และการไม่รังเกียจในมุมมองของพุทธศาสนา โดยแสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์ระหว่างการรับรู้และการกระทำของบุคคล ที่เรียกได้ว่าเป็นการเข้าใจตามอิทธิประสาทที่มีอยู่ เข้าไปในรายละเอียดเกี่ยวกับการรับรู้ทั้งของตนเองและผู้อื่นและการทำความเข้าใจเรื่องรังเกียจ เรื่องนี้เหมาะสำหรับผู้สนใจใข้ชีวิตให้มีความสันติและความเข้าใจในพุทธศาสนา รวมถึงการทำความเข้าใจเกี่ยวกับกรรมและจิตที่รู้สึก.

หัวข้อประเด็น

-อิทธิประสาท
-การรับรู้ในพุทธศาสนา
-จิตและความคิด
-รังเกียจและการกระทำ
-กรรมและผลแห่งกรรม

ข้อความต้นฉบับในหน้า

ประโยค(ตอน) - ดูท้อสมองปลาสาทกาแปลภาค 1 - หน้าที่ 141 สิกขานนี้." ในบทว่า อฤทธิ์ เป็นต้นนั้น ที่ชื่อว่า ไม่ได้เห็น คือ ไม่ได้ เห็นด้วยอิทธิประสาท หรือด้วยพิษอิทธิของตน. ชื่อว่า ไม่ได้นอน คือ ไม่ได้ยินใคร ๆ เขาพูดกันเหมือนอย่างนั้น. ที่ชื่อว่า ไม่ใรังเกียจ คือ ไม่ได้รังเกียจด้วยจิต. ที่ชื่อว่า ได้เห็น คือ ตนเองหรือคนอื่นได้เห็นด้วยอิทธิประสาท หรือ ด้วยพิษอิทธิ. ที่ชื่อว่า ได้ยิน คือ ได้ยินเหมือนอย่างที่ได้ เห็นนั้นเอง. ที่ชื่อว่า ไร้รังเกียจ คือ ตนเอง หรือคนอื่นรังเกียจ. ใน เรื่องได้เห็นเป็นต้น ตนเองได้เห็นมาจนชื่อว่า ได้เห็น. แต่ลักษณะ ทั้งหมดนี้ คือ คนอื่นได้เห็น ตนเองได้ยิน คนอื่นได้ยิน คนอื่น ได้รังเกียจ ตั้งอยู่บนฐานที่ตนได้ยินมาเท่านั้น. ก เรื่องที่ชรึงเกี่ยวมี ๑ อย่าง คือ รังเกียจด้วยอำนาจาได้เห็น รังเกียจด้วยอำนาจาได้ยิน ๑ รังเกียจด้วยอำนาจาได้ทราบ ๑. ในเรื่องรังเกียจ ๑ อย่างนั้น ที่ชื่อว่า รังเกียจด้วยอำนาจาได้เห็น คือ ภาพรูปหนึ่่งเข้าไปยังพุ่มไม้แห่งหนึ่่ง ใกล้หมู่บ้าน ด้วยการถ่ายอุปจาระและใสสวะ. หญิงแม่นคนใด คนหนึ่ง ก็เข้าไปยังพุ่มไม้แห่งอำนาจในอย่างเดียวกันแล้ว กลับไป, ทั้งก็ญูรู้ไม่ได้เห็นผู้หญิง ทั้งผู้หญิงไม่ได้เห็นภิกษุ, นั่งสองคนต่างก็หลีกไปตามชอบใจ ไม่ได้เห็นกันเลย, ภิกษุอีกรูปหนึ่ง กำหนดหมายอา การก็คนทั้งสองออกไปจากพุ่มไม้บัาน. จงจริงเกียวว่า " ชนเหล่านี้จะทำกรรมแล้ว หรือก็จะทำแน่แท้" นี้ ซึ่งว่า รังเกียจด้วยอำนาจาได้เห็น.
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

หนังสือที่เกี่ยวข้อง

Load More