ข้อความต้นฉบับในหน้า
ประโยค- ทัศสนสนปสากาเปล ภาค ๑ - หน้าที่ 95
แล้วรับมาตรไปทานน้ำมัน บรรจุข้าวต้มหรือ ข้าวสวยให้เต็มแล้วถวาย,
ไม่ชื่อว่าเป็นวิญญุติ, จะรับรอย ฉันนี้เ้ล
พากิญญ์ที่อิ่นหยาบแตชชำดี ไปถึงหอฉันไม่เห็นที่นั่ง
ยืนคออยู่, ถ้าหอฉันนั้น พวกอาเกลิกเห็นพวกภิกษูยืนอยู่ ช่วยกัน
ให้้นั่งที่นั่งมาเอง. พวกภิกษุ นั่งแล้ว เมื่อจะไป พึงบอกล่ำก่อนแล้ว จีงไป. แม้พวกภิกษุไม่บอกลา ก่อนแล้วไป ของหาย ไม่เป็นสนิข.
แต่การบอกลาแล้วไป ฟ้อนรำนิยม.
ถ้าสถานะเป็นของที่ชาวบ้านซึ่งภิกุทั่วหลายสังว่า " พวกท่านองค์
นำอาสนะมา" จึงนำมาให้, ภิกษุหลายต้องบอกลาแล้วจงไป. เมื่อ
พวกภิกษุ ไปไม่บอกลา เป็นการเสี่ยงธรรมเนียม และของหาย เป็น
สินใช้ด้วย. แปรเป็นพรสำหรับปลด กลิ่นยออย่างนี้เหมือนกัน.
แมลงที่มีชุมมาก พึงกล่าวว่า " งอจพัดปลิดแมลงหวิม".
พวกชาวบ้านกำลังละกะเป็นดิมมาให้ พึงให้ทับปะก่อน แล้วจึงรับ.
ภาชนะแห่หอฉันว่างเปล่า ไม่ควรกล่าวว่า " จำนมรมกม."
เพราะเมื่ออ่อนมรรคกลไปในฐานะว่างเปล่า จะพิชทำฐานะแตก.
แต่จะไปยังแม่น้ำ หรือ บึง แล้วกล่าวว่า " จำนำ้ำมา" ควรอยู่
จะกล่าวว่า " จำนำมาตาเรือน " ก็ไม่ควรเหมือนกัน. อย่ึงบรรโค
น้ำที่เขานำมาให้.
ภิกษุทั้งหลายผักผักกีท่อนอัน หรือที่เสนาสนะปึกกี ใบไม้
หรือผลไม้ที่ควรกินเป็นกับแกล้มอย่างใดอย่างหนึ่ง ซึ่งไม่มีตนวงห้าม