ฤดูสุดมันของกานแปลง ภาค ๑ ทุติยสมันตปาสาทิกา ภาค 1 หน้า 334
หน้าที่ 334 / 450

สรุปเนื้อหา

บทสนทนานี้เน้นถึงการทำการเกษตรของชาวบ้านและการถวายผลผลิต เช่น ข้าวกล้าให้กับพิธีกรรมในวิหาร นอกจากนี้ยังพูดถึงความสำคัญของน้ำในการเพาะปลูกในฤดูที่เหมาะสมและความรับผิดชอบของชาวบ้านเมื่อร่วมทำกิจกรรมเหล่านี้ในชุมชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงฤดูการเกษตรที่เป็นปกติ.

หัวข้อประเด็น

-การเกษตร
-พิธีกรรม
-การใช้น้ำในการเพาะปลูก
-บทบาทของชาวบ้าน

ข้อความต้นฉบับในหน้า

ประโยค(ตอน) - ฤดูสุดมันของกานแปลง ภาค ๑ - หน้าที่ 333 และนกก็คลื่นกิน" ดังนี้ แล้วรีโภค ควรอยู่. แม้มากว่า เมื่อ ทายกกล่าวว่า "ข้าวเจ้าฉวยยิ่ง หรือ สะโภกรณีแกล้งสง" ภูษฎ จะกล่าวว่าเป็นคำว่า "ดีล อุมาส! สงสูถามน้ำ" แล้วรีโภค ใช้ลอย สมควรเหมือนกัน. ถ้ พวกภูกูขอหัตถกรรม และขุดก่อปิยปฏิของตนเอง ให้สร้างสารน้ํ่าเพื่อก่อการใช้น้ำ, ถ้าพวกชาวบ้านอาศัยสาระนั้นทำ ข้าวกล้าให้สำเร็จแล้วถวายกับปิยปกรณ์ในวิหาร ควรอยู่, ถ้ามันว่า พวกชาวบ้านนั้นแปละ จุดพื้นที่ของสงส์เพื่อรองรับการอุปการะแกล้งสงส์ แล้วถวายกับปิยปกรณ์จากข้าวกล้าทอศัยสาระน้ำนั้นสำเร็จแล้ว, กับปิยปกรณ์ที่มันมี่ ก็สมควร. ก็เมื่อเขากล่าวว่า "ท่านทั้งหลาย งตั้งกับปิย- การให้พวกผมคนหนึ่ง" แม้ก็จะตั้งก็ได้. ซึ่ง ถ้ามีพวกบ้านนั้น ถูกชะล์รินกวนพากันไป, ชาวบ้านอื่นจัดทำอยู่, และไม่ถวายอะไร ๆ แก่ภูกูทั้งหลายเลย, พวกภูกูขอจะหามน้ำก็ได้. ก็แลการหว่านน้ำั่น ย่อมได้ในฤดูทำเท่านั้น ไม่ใช่ในฤดูข้าวกล้า (สำเร็จแล้ว). ถ้าพวกชาวบ้านกล่าวว่า "ท่าน ขอรับ! แม้ก่อนพวกชาวบ้านได้อาศัยน้ำนี้ทำข้าวกล้ามใช้หรือ? เมื่อขึ้นพิงบอกพวกเขาว่า "พวกนั้นเขาได้กระทำอุปการะอย่างนี้และอย่างนี้แก่วงษ์, และได้ถวายแม่กับปิยปกรณ์ อย่างนี้และอย่างนี้." ถว่า พวกเขากล่าวว่า "แม่พวกเขาขา ก็ถือเอาว่า" ดังนี้, อย่างนี้ก็อค. ก็ถ้าว่า ภูกูบางรูปลำเข้าใจ รับสะหรือให้สร้างสารโดย
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

หนังสือที่เกี่ยวข้อง

Load More