ข้อความต้นฉบับในหน้า
ประโยค (๓) - ดูดดสมันปทําสกนบท๑ - หน้า๓๓๒
เพราะล่วง ๑๐ วันไป ก่อนแต่วันเข้าพรรษา จริง ดังที่ตรัสไว้ ว่า “ภิญพิงจองอธิษฐานจิริวไว้ ๑๐ วันเป็นอย่างมาก” เพราะฉะนั้น ผ้าอาบน้ำฝนที่ได้มาและสำเร็จแล้วในวันที่เข้า พรรษา ยังไม่มาถึง ด้วยอานาจแห่งวันหนึ่ง และสองวันเป็นต้น จนถึง ๑๐ วัน หรือ ในภายในพรรษา พึงอธิษฐานในภาวะใน ๑๐ วัน หรือในวันนั้น โดยนัยดังกล่าวแล้วนั้นแหละ เมื่อยังไม่ครบ ๑๐ วัน ก็ไม่พึงให้ล่วง เลยวีรากลไป
ในอธิษฐานแห่งอาบน้ำอาบฝนนี้ จะมีมีการท้วงว่ “เพราะ พระบอกว่า “เราอนุญาตให้ธำรงตลอด ๔ เดือน ฤดูฝน” ใน ภายใน ๔ เดือน จะอธิษฐานในเวลาใดเวลาหนึ่ง ก็จะใช้ได้" ถ้ามีมีคำอย่างนี้ คำที่ตรัสไว้ว่า “เราอนุญาตให้ธำรงผ้าใดผ้หนึ่งได้ตลอดเวลาที่มีอธิษฐาน” และแม้ผ้าผืนฝนนี้ ก็ไม่ควรให้ล่วง ๑๐ วัน และเมื่อมีมีล่วง ๑๐ วันไปอย่างนั้น คำว่า “พึงทรงอธิษฐานจิริวได้ ๑๐ วันเป็นอย่างงั้น” นี่จะผิดไป เพราะฉะนั้น บัณฑิตจึงควรเชื่อถือคำถามที่กล่าวแล้วนั้นแน่ ฯลฯ หรือว่าได้มาที่ไม่ละหลวมอย่างอื่นแล้ว ก็ควรสติ้งเสียว.
อันนี้ แม้นมีคุณที่ ก็กล่าวไว้ในที่สุดแห่งนี้คือว่า "ผ้าครบอาบน้ำฝนควรอธิษฐานเมื่อไหร่? ก็แล้ว ผ้าครบอาบน้ำมันที่สำเร็จแล้ว ภายใน ๑๐ วัน ตั้งแต่วันที่ได้มา ควรอธิษฐานภายใน ๑๐ วัน นั้นนั่นแหละ ถ้าไม่พอ ย่อมได้บริการไปจนถึงเดือน ๑๒."
๑. วี มหา ๒/๓