ข้อความต้นฉบับในหน้า
ประโยค (ตอน) – ทุติยสนฺนปสาทกาเกปา กา - หน้าที่ 60
บทว่า อปฺปขวา ปฏิพุทธจิตโฺต มียังดังกล่าวแล้วนั้นแล ในสิกขาบทนี้ พึงประกอบราชด้วยอำนาจแห่งความยินดีในวาจาอย่างเดียว.
พระผู้มะภาคเจ้า เมือจะทรงแสดงมุตตามุทท์ที่ทรงประสงค์ในคำว่า มาตุคาม ทุจฉลาภา ถาจิ นี่ จึงตรัสว่า มาตุคามโม เป็นอาที.
บรรดาบทเหล่านั้น ด้วยคำว่า "เป็นหญิงที่เป็นสุกลาด สามารถ ทราบถ้อยคำที่เป็นสุขิตพฤติภายใน วางชั่วหยาบและสุขภาพได้" นี่ ท่านพระอุบาลแสดงว่า "หญิงที่เป็นผู้ลลาด สามารถที่จะทราบ ถ้อยคำที่เป็นประโยชน์และไร้ประโยชน์ ถ้อยคำทิดาพิทยเสิร์ฟธรรมและลักษณะธรรมประสงค์ในสิกขาบทนี้. ส่วนหญิงที่โง่เวลาขบปัญญา แม่เป็นผู้ใหญ่ ก็ไม่ทรงประสงค์เอาในสิกขาบทนี้."
บทว่า โอภาเสวย คำวา พึงพูดคา คือ คำพูดพึงสาธรรม มิประกาศ ๆ ก็เพราะชื่อว่า การพูดคาของภิกุผู้ฉองนี้ โดยความหมาย เป็นอัจฉมาบา คือ เป็นความประพฤติล่วงละเมิดของเขตแดน แห่งความสำรวมด้วยอำนาจแห่งราชะ; ฉะนั้น พระผู้มะภาคเจ้า เมื่อจะทรงแสดงเนื้อความนั้น จิงตรัสว่า "บทว่า โอภาเสวย คือ ทีเรียกว่า อัจฉมาบา."
คำว่า ตุ ในคำว่า ยกตะ นี เป็นเพียงนิบาต. ความว่า เหมือน ชายหนุ่มพูดคาหญิงสาว จะนั่น.
คำเป็นต้นว่า เทว มะคุย อาทิสสุ ดังนี้ พระผู้มะภาคเจ้า ตรัสแล้ว เพื่อทรงแสดงอาการที่เป็นเหตุให้เป็นสงฆ์มตัส แก่ภิษฏุ ผู้พูดคา (หญิง).