การบริโภคและกฎหมายน้ำใจในชีวิต ทุติยสมันตปาสาทิกา ภาค 1 หน้า 364
หน้าที่ 364 / 450

สรุปเนื้อหา

เนื้อหานี้สอบถามเกี่ยวกับการบริโภคและแนวคิดในการรับประทานอาหารในสังคม ปัญหาที่เกิดขึ้นจากการบริโภคในรูปแบบต่างๆ และอาบัติแก่ผู้ที่ทำสมควรตั้งอยู่ในฐานะของการใช้สิทธิในการบริโภคเท่านั้น นอกจากนี้ยังพิจารณาความแตกต่างจากการบริโภคที่ไม่พิจารณาและการทำผิดกฎหมายในสังคมที่อาจเกิดขึ้น เอกสารนี้มีการพูดถึงแนวคิดของการบริโภคในโครงสร้างทางศาสนาและศิลปะ

หัวข้อประเด็น

-การบริโภคอย่างมีจริยธรรม
-กฎหมายน้ำใจ
-อาบัติในการบริโภค
-ประเภทการบริโภค
-การพิจารณาก่อนบริโภค

ข้อความต้นฉบับในหน้า

ประโยค - ดูท่อตันปลาสักษากานแปลไป ภาค ๑ - หน้า ที่ 363 ไม่ควรแก้กฎหมายนั้น และแก้กฎอื่น ฉันนั้น ถึงปัจจุบันที่เกิดขึ้นโดยธรรม โดย่ำาเสมอ ยังไม่ได้พิจารณา จะบริโภค ก็ไม่ควร [อภิปรายถามบริโภคปัจจุบัน ๔ อย่าง] จริงอยู่ การบริโภค มี ๔ อย่าง คือ ไถยบริโภค (บริโภคอย่าง ขโมย) ๑ อินบริโภค (บริโภคอย่างเป็นหนี้) ๑ ทายซาบริโภค (บริโภคอย่างเป็นผู้รับมรดก) ๑ สามบริโภค (บริโภคอย่างเป็นเจ้า ของ) ๑ บรรดาการบริโภค ๔ อย่างนั้น การบริโภคของกิถผู้ศร ซึ่งบ่งบริโภคอยู่แผ่ในท่ามกลางสงฌ์ คำว่า ไถยบริโภค การบริโภค ไม่พิจารณาของกิถผู้ศร คำว่า อินบริโภค เพราะฉะนั้น กิถผู้มี ศิลปิพิจารณาจิราวทุกฌะที่บริโภคใช่สอจ. บินทบาพิจารณา ทุก ฌำคำสัน. เมื่อไม่อาจอย่างนั้น พึงพิจารณาในกาลก่อนฉัน หลังฉัน ยามฉัน ยามกลาง และยามสุดท้าย. หากเมื่อเธอไม่ทัน พิจารณาอรุณขึ้น ย่อมตั้งอยู่ในฐานะบริโภคหลัง. แม้เสนาะนัต ก็ถึง พิจารณาทุก ฌะที่ใช้สอย ความมิติตีเป็นปัจจัยในขณะรับทั้ง ในขณะบริโภคกล่าว ข้องควร. แม้เมื่อเป็นอย่างเดียว ก็เป็นอาบัติแก่ กิถผู้ทำสกิริยา รับ. ไม่ทำในบริโภคอย่างเคลือย แต่ในนี้เป็น อาบัติแก่กิถผู้ทำสกิริยา ไม่ทำในบริโภคอย่างเลื่อน แต่ในนี้เป็น อาบัติแก่กิถผู้ทำสกิริยา ไม่ทำในบริโภคอย่างเลื่อน. แต่ในนี้เป็น อาบัติแก่กิถผู้ทำสกิริยา ไม่ทำในบริโภคอย่างเคลือย แต่ในนี้เป็น อาบัติแก่กิถผู้ทำสกิริยา ไม่ทำในบริโภคอย่างเคลือย. แต่ในนี้เป็น อาบัติแก่กิถผู้ทำสกิริยา ไม่ทำในบริโภคอย่างเลื่อน. แต่ในนี้เป็น อาบัติแก่กิถผู้ทำสกิริยา ไม่ทำในบริโภคอย่างเคลือย. แต่ในนี้เป็น อาบัติแก่กิถผู้ทำสกิริยา ไม่ทำในบริโภคอย่างเลื่อน. แต่ในนี้เป็น อาบัติแก่กิถผู้ทำสกิริยา ไม่ทำในบริโภคอย่างเคลือย. แต่ในนี้เป็น อาบัติแก่กิถผู้ทำสกิริยา ไม่ทำในบริโภคอย่างเลื่อน. แต่ในนี้เป็น อาบัติแก่กิถผู้ทำสกิริยา ไม่ทำในบริโภคอย่างเคลือย. แต่ในนี้เป็น อาบัติแก่กิถผู้ทำสกิริยา ไม่ทำในบริโภคอย่างเลื่อน. แต่ในนี้เป็น อาบัติแก่กิถผู้ทำสกิริยา ไม่ทำในบริโภคอย่างเคลือย. แต่ในนี้เป็น อาบัติแก่กิถผู้ทำสกิริยา ไม่ทำในบริโภคอย่างเลื่อน. แต่ในนี้เป็น อาบัติแก่กิถผู้ทำสกิริยา ไม่ทำในบริโภคอย่างเคลือย. แต่ในนี้เป็น อาบัติแก่กิถผู้ทำสกิริยา ไม่ทำในบริโภคอย่างเลื่อน. แต่ในนี้เป็น อาบัติแก่กิถผู้ทำสกิริยา ไม่ทำในบริโภคอย่างเคลือย. แต่ในนี้เป็น อาบัติแก่กิถผู้ทำสกิริยา ไม่ทำในบริโภคอย่างเลื่อน. แต่ในนี้เป็น อาบัติแก่กิถผู้ทำสกิริยา ไม่ทำในบริโภคอย่างเคลือย. แต่ในนี้เป็น อาบัติแก่กิถผู้ทำสกิริยา ไม่ทำในบริโภคอย่างเลื่อน. แต่ในนี้เป็น อาบัติแก่กิถผู้ทำสกิริยา ไม่ทำในบริโภคอย่างเคลือย. แต่ในนี้เป็น อาบัติแก่กิถผู้ทำสกิริยา ไม่ทำในบริโภคอย่างเลื่อน. แต่ในนี้เป็น อาบัติแก่กิถผู้ทำสกิริยา ไม่ทำในบริโภคอย่างเคลือย. แต่ในนี้เป็น อาบัติแก่กิถผู้ทำสกิริยา ไม่ทำในบริโภคอย่างเลื่อน. แต่ในนี้เป็น อาบัติแก่กิถผู้ทำสกิริยา ไม่ทำในบริโภคอย่างเคลือย. แต่ในนี้เป็น อาบัติแก่กิถผู้ทำสกิริยา ไม่ทำในบริโภคอย่างเลื่อน. แต่ในนี้เป็น อาบัติแก่กิถผู้ทำสกิริยา ไม่ทำในบริโภคอย่างเคลือย. แต่ในนี้เป็น อาบัติแก่กิถผู้ทำสกิริยา ไม่ทำในบริโภคอย่างเลื่อน. แต่ในนี้เป็น อาบัติแก่กิถผู้ทำสกิริยา ไม่ทำในบริโภคอย่างเคลือย. แต่ในนี้เป็น
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

หนังสือที่เกี่ยวข้อง

Load More