ข้อความต้นฉบับในหน้า
ประโยค (ตอน) - จุดอ่อนมณปสาทกานแปลภาค ๑ - หน้าที่ 359
แล้วแท้ แต่ถ้าไม่ห้ามด้วยกายและวาจา รับอยู่ด้วยจิต ย่อมต้องอาบัติ ในกายทวาร และวาจาทวาร มีการไม่กระทำเป็นสมุทฐาน เพราะไม่กระทำให้มันเท่าที่มีพระพุทธายมพระทำด้วยกายและวาจา แต่ชื่อว่า อาบัติ ทางมรรคาวาร ไม่มีบุคคลคนเดียววางเงินตังร้อยตั้งพัน ไว้ใกล้เท่า ด้วยกล่าวว่า "นี้ เป็นของท่าน." ภิกษุห้ามว่า "นี้ไม ควร." อุบาสกพูดว่า "กระผมสะถวถถวายท่านแล้ว" ก็ไป มีอี่น มาที่มั่น ถามว่า "นี้เป็นของท่าน." ภิกษุพูดว่า "นี้อะไร เองครับ!" ภิกษุพึงบอกคำที่อุบาสกนั้น และคนพูดกัน ถ้าเขาพูดว่า "ผมจักเก็บให้ ขอบริ ท่านจงแสดงที่เก็บ." ภิกษุพึงขึ้นไปยกปราสาทถึงชั้น ๗ แล้วพึงบอกว่า "นี้เก็บ." แต่ อย่าพึงบอกว่า "จงเก็บไว้ในที่นี่." อนุปปิวัตถุ (มิ่งทองและเงิน เป็นต้น) ข้อผมเป็นอันอาศัยวัตถุที่เป็นกัปปิยะและอันปิยะ ตั้งอยู่ ด้วยคำบอกมีประมาณเท่านั้น. พิงปิดประตูแล้วอุทธาหา.
ถว่า อุบาสกถืออาบาตรและจิวรซึ่งเป็นของจะขายบงอย่างงาม, เมื่อเขาว่า "ท่านจักรับสิ่งนี้ไหม ขอรับ!" พึงกล่าวว่า "อุบาสก พวกเรามีความต้องการสิ่งนี้ และวัตถุชื่อเห็นปานนี้ ก็มีอยู่, แต่ไม่มี มั่นปิยากร." ถ้าหากพูดว่า "ผมจักเป็นกัปปิโปราร, ขอท่านโปรดเปิดประตูให้เกิด" พึงปิดประตูแล้ว กล่าวว่า "ตั้งอยู่ในโอกาสโน้น." และอยู่พึงกล่าวว่า "ท่านจงถือเอาสิ่งนี้." แม้อย่างนี้ อนุปปิวัตถุก็เป็น อนอาศัยวัตถุเป็นกัปปิยะและอภินปิยะ ตั้งอยู่เหมือนกัน. ถ้าเขาถือเอา หาผานั้นแล้ว ถ่ายกัปปิณฑะแก่เจ้า, ควรอยู่. ถ้าเขาถือเอา เกินไป พึงบอกเขาว่า "พวกเราจำไม่เอาดังนี้ของท่าน, จงเก็บเสีย."