ข้อความต้นฉบับในหน้า
ประโยค (ตอน) - ดูอัดส่วนปากกาเปล่า ภาค ๑ - หน้า 160
ด้วยมูลมีการได้เห็นเป็นต้นนั้นแน่ และภูกุนี้ยืนยันอย่างไว้สะ คือ
เมื่อกล่าวเป็นต้นว่า "ขพเจ้าพูดเล่นปล่าๆ" ชื่อว่าอธมปัญญา.
เป็นสังคมที่เสแก่กิริยาอันในขณะโจนั่นเอง นี้เป็นใจความ
แห่งลักขันนั่น ซึ่งมีนิทศ (การยาย) ตามลำดับแห่งก่อน.
[แต่อรรถา ภาคาชินี]
บัดนี้ พระผู้พระภาคเจ้า เมื่อจะทรงอภิบัติแสดงโดย
พิสดาร ด้วยสามารถแห่งเรื่องของการโจน มีเรื่องที่ไม่ได้นิเลนเป็นต้น
ที่ครัสไว้โดยส่งเบลลัน จิงครัสคำอาเทว่า อนุอุสุส โหติ ดังนี้.
บรรดาเทพนั่น คำว่า อนุอุสุส โหติ ได้แก่ (จำเลย)
เป็นผู้นอนโจนกันนั่นไม่ได้เห็น. อธิบายว่า "บุคคลผู้อ้างธรรมถึงปราชิก
นั้น เป็นผู้อ้นโจนที่มีไม่ได้แน่น. แม้นในบทว่า อุตสุต โหติ เป็นต้น
ก็มิณเหมือนกันนั่น.
สองบทว่า ทิกุโส มาย มีคำอธิบว่า "ท่านเป็นผู้อื่นเรา
เห็นแล้ว." แม้นในบทว่า สุโด มาย เป็นต้นก็มีอ้างอย่างนี้. บทที่
เหล่าในอธิกณีซึ่งก็ยังอ้างได้เป็นบุณอุสตนเดียว. ส่วนใน
อธิกณีที่มีมูดด้วยเรื่องได้เห็น พึงทราบความเป็นอธิกณีไม่มีมูล
เพราะความไม่มีแห่งมูล มีเรื่องที่ได้ยินเป็นต้น ที่ครัสไว้อย่างนี้ว่า
"ถ้าโจนก็โจนกิบบนว่า ข้าพเจ้าได้ยิน" เป็นต้น.
ก็ในรวะของโจนอันนี้ทั้งหมดนั่นเอง ย่อมเป็นสังคมอิสเหมือน
กันทุก ๆ คำพูด ด้วยอานาแห่งคำพูดคำนี้ ๆ ในบรรดาคำเหล่านี้