ข้อความต้นฉบับในหน้า
ปะโยค(๒) - ฤดูฝนในป่าสักกามเปล ภาค ๑ - หน้าที่ 339
อันเป็นของสงฆ์ ภิกษุรูปใดทำกรรมเป็นธรรม ภิกษุรูปนั้น เป็นใหญ่ ถ้าเมื่บคคลที่ถูกภิกษุบ่มอยู่ ย่อมขึ้นกระทำ พึงกลบคืนรวมที่บกู้ไว้บ้างล่างช่างล่าง กลองดินร่วมนั้นเขาถูกไว้บ้างบน ให้เต็ม
พระมหาสมเครดกล่าวว่า "ถ้าใคร ๆ ประสงค์จะถวายอ้อย หรือปรนาสดา หรือลผลไม้เท่า มันต้และฟักเป็นต้น ตามที่เกิด แล้วนั้นแหละ กล่าวว่า "ข้าพเจ้าจะถวายไรอ้อย ใรปรณดาษ" หลุม (เพราะปลูก) ผลไม้กงหมดนี้" ดังนั้น ไม่ควร เพราะ เขารบพร้อมทั้งวัตถุ (ไร้) ส่วนพระมหาโพธิ์เญด กล่าวว่า "นั่นเป็นแต่เพียงโวหาร เพราะภูมิภาคนั้น ยังเป็นของพวกเจ้าของ อยู่แน่ะ เพราะเหตุนี้ จึงควร"
[วิธีปฏิบัติในกาล ควบควดและปลดลัดมีผู้ถวาย]
ทายกกล่าวว่า "ข้าพเจ้าถวายทาล" การถวายบ่น ไม่ควร เมื่อเขากล่าวว่า "ข้าพเจ้าถวายวัด" ถวายไว้อักร ถวายกับปิย-กุ" ดังนี้ จึงควร ถ้าอาจามิชนั้น ทำการงานของสงฆ์เท่านั้น ทั้งก่อนบังคและหลังบังค, ภิกษุผู้กระทำอำภารพด้วยยา ทุกอย่างแก่เขาหน้อยบันสามถมเณร, ถ้าเขาทำงานของสงฆ์ก่อนบังค เวลาเดียว ภายหลังบังคไปรทำการงานของตน ไม่พึงให้อาหร ในเวลาเย็น แม้ชนำพวกใครกระทำงานของสงฆ์ตามวาระ ๕ วัน หรือ ตามวาระป๋าย ในเวลาที่เหลือทำงานของตน พึงให้จัดและอาหาร