ข้อความต้นฉบับในหน้า
ประชโยค (ต่อ) - ดูท่อตรงปลากลางแปลง ภาค ๑ หน้าที่ 340
แม้แก่คนพวกนั้น ในเวลาระทำเท่านั้น. ถ้าการงานของสงฆ์ไม่มี,
พวกเขากระทำงานของตนเองเลี้ยงชีพ, ถ้าพวกเขานำเอามูลค่าติดต่อ-กรรมมาถวาย พึงรับ. ถ้าพวกเขาไม่ถวาย ก็อย่างพึงพูดอะไร ๆ เลย.
การรับทาส้อมผักดี ๆ ทาสช่างทุกดี อย่างใดอย่างหนึ่ง โดยชื่อว่าอารามิกชน ควรอยู่.
ถ้าพวกทางกล่าวว่า "พวกข้าเจ้าถวายโค้หลายหลาย" ดังนี้,
ก็ภึงห้ามพวกเขาว่า "ไม่สมควร" เมื่อมีพวกชาวบ้านถามว่า "โคเหล่านี้ ท่านได้มาจากไหน ?" พึงบอกว่า "พวกชาวบ้านติดถวายไว้เพื่อประโยชน์แก้การบิไกปัญหาโครส" เมื่อพวกเขากล่าวว่า "แม่พวกผมก็ถวาย เพื่อประโยชน์บิไกปัญหาโครส" ดังนี้ ควรอยู่.
แม้ในปัสสวัฏเล่นแพะเป็นต้น ก็ขึ้นนี้แหละ.
พวกชาวบ้านกล่าวว่า "พวกข้าทำถวายช้าง, ถวายม้า, กระบือ, ไก่, สุกร" ดังนี้, อะไรไม่ควร. ถ้าพวกชาวบ้านบางหมู่กล่าวว่า
"ท่านอธิษฐาน! ขอนำทั้งหลายของเป็นผู้ขวนขวายน้อยเกิด, พวกผม
จักรับสัตว์เหล่านี้แล้ว ถวายกับปัจจัณฑ์แก่ท่านทั้งหลาย" แล้วรับไป,
ย่อมควร. จะปล่อยเสือใบได้โดยกล่าวว่า "ไก่และสุกรเหล่านี้ จง
อยู่ตามสมบูรณ์ดี" ดังนี้ ก็ควร. เมื่อเขากล่าวว่า "พวกข้าเจ้าถวายสะนี้" นั้น ๆ ไร่นั้น ก็วิหาร" ภิกษุจะปฏิสันไม่ได้นะเนี๊ยะ.
คำที่เหลือในสิกขาบทนี้ มิอธิบายทั้งนั้น ดังนี้แหละ.
บรรดามูลฐานเป็นฉัน สิกขาบทนี้ มีสมุฏฐาน ๖ เป็น
กิริยา โน่สัญญาโมกข์ อติฏกะ ปิณฑัตว์ชะ กายกรรม วิจิกิจกรรม