การชิงฉินในพระธรรม ทุติยสมันตปาสาทิกา ภาค 1 หน้า 425
หน้าที่ 425 / 450

สรุปเนื้อหา

บทความนี้กล่าวถึงการชิงฉินในวงการพระธรรม โดยเฉพาะกรณีของภิกษุผู้ที่นำสิ่งของตามคำสั่งและผลกระทบที่เกิดขึ้น นอกจากนี้ยังมีการวิเคราะห์ถึงอาบัติของภิกษุที่มีความอิจฉาและการถือเอาของผู้อื่น บทความยกตัวอย่างและอธิบายความหมายเพื่อให้ผู้อ่านเข้าใจถึงหลักธรรมและจริยธรรมที่สำคัญในพุทธศาสนา ซึ่งช่วยให้เห็นว่าการกระทำใดๆ ที่ขัดต่อหลักธรรมย่อมมีผลร้ายตามมา

หัวข้อประเด็น

-การชิงฉิน
-ภิกษุ
-อาบัติ
-พระธรรม
-จริยธรรมในพุทธศาสนา

ข้อความต้นฉบับในหน้า

ประโยค (ต่อ) - ทีอุตสงวนปลาสากถามแปล ภาค ๑ หน้า ๑ ปิตตรวรรดิ ๑๓ สีอาชาบที ๕ จิวอัจฉินทนสีอาชาบที จิวอัจฉินทนสีอาชาบว่ากว่า "เตน สมยุน" เป็นต้น ข้าพเจ้า จะกล่าวต่อไป:- ในวิต่อฉินทนสีอาชาบนั้น มีวีฉินฉึดต่อไปนี้:- หลายบวกว่า ยีป ยูทยา ตบเป็น ยีป ๓ ออ แปลว่า เราได้ให้วรวแม่ไม่แก่ท่าน ได้ยินว่า พระอุปปนนันนั้น คิดว่า "ภิกษุ นี้จึงนำมารดา จิรว รองเท้า และผ้าปูบนเป็นต้นของเรา ไปสู่ที่อธิร กับเรา" จึงได้ให้แล้ว; เพราะเหตุนี้แสดง เธอจึงได้กล่าวอย่างนั้น [ว่าด้วยการชิงฉิน ของภิกษุผู้ให้วีร] บทว่า อุตฉินทิ แปลว่า ได้ถือเอาแล้วโดยผลจาก. แต่เพราะ ถือเอาด้วยสำคัญว่า ของตน จึงไม่เป็นปราชญ์แก่เธอ. เพราะเธอทำให้ ลำบากแล้วก็อวริว พระผู้มีพระภาคเจ้า จึงทรงบังฏอับปติไว้. ข้อว่า สย อุตฉินทติ นิสุตกุฏิ ปาจิตติยี มีความว่า สำหรับ ภิกษุผู้ซึ่งอิจฉาผืนเดียว และมากฝันซึ่งเนื่องเป็นอันเดียวกัน เป็น อาบัติตัวเดียว. เมื่อภิกษุองค์อิจฉามากฝันซึ่งไม่เนืองเป็นอันเดียวกัน และตั้งอยู่แยกกัน และเมื่อใช้ผู้อื่นนำมาให้โดยส่งอย่างนี้ว่า "เธอ จงนำสังภูมิ บุญนำผ้าตราสงฺคาม" เป็นอาบัติมากด้วยตามจำนวน วัตถุ. แม้เมื่อกล่าวว่า "เธอจงนำอิจฉาทั้งหมดที่เราให้แล้วคืนมา" ก็เป็นอาบัตินำจำนวนมาก เพราะคำพูคคำเดียวกันนั่นแล.
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

หนังสือที่เกี่ยวข้อง

Load More