เสนาสนะแห่งป่าในพระธรรม ทุติยสมันตปาสาทิกา ภาค 1 หน้า 444
หน้าที่ 444 / 450

สรุปเนื้อหา

บทความนี้พูดถึงเสนาสนะในป่าและข้อบังคับเกี่ยวกับการเข้าพรรษาของภิกษุ โดยอธิบายองค์ประกอบต่างๆ ที่จำเป็นต้องมี เช่น จำนวนอย่างน้อย 500 ชั่วโมง และข้อกำหนดทางสิกขาบทที่เกี่ยวข้องกับการประพฤติของภิกษุในเสนาสนะ นอกจากนี้ยังได้กล่าวถึงบริบทของการเป็นอยู่ในเสนาสนะและความหมายของการเข้าสู่พื้นที่วัดในช่วงเข้าพรรษา เช่น ความสำคัญในการหลีกเลี่ยงสถานที่มีอันตรายและการรักษาเงื่อนไขเพื่อให้ได้ผลประโยชน์สูงสุดจากการปฏิบัติธรรม ในที่สุดสรุปถึงความเอื้ออำนวยของเสนาสนะในทางปฏิบัติเพื่อการศึกษาและการรักษาคุณธรรมในชีวิตของภิกษุ.

หัวข้อประเด็น

-ข้อบังคับในการเข้าพรรษา
-องค์ประกอบของเสนาสนะ
-ความสำคัญของการรักษาเงื่อนไข
-การหลีกเลี่ยงอันตรายในเสนาสนะ
-การปฏิบัติธรรมในเสนาสนะ

ข้อความต้นฉบับในหน้า

ประโยค (ชั่น) - ฑูตอสมันดปลาสกาทาแปลภาค 1- หน้า 443 แห่งเสนาสนะป่า ในเสนาสนะป่านั้น มีองสมบัติดังต่อไปนี้:- ภิกษุเข้าพรรษา ในวันเข้าพรรษาแรก ปฏิบติในวันมหาวารตา นี่เป็นองค์ อันหนึ่ง ถ้าก็ญเข้าพรรษาในวันเข้าพรรษาหลังดี มีพรรษาบาด ก็ผิด ย่อมไม่ได้เพื่อจะเก็บไว้ เป็นเดือน 12 เท่านั้น นี่เป็นองค์ที่ 2 นอกจากเดือน 12 ไป ย่อมไม่ได้เพื่อจะเก็บ เป็นเสนาสนะที่ประกอบ ด้วยประมาณอย่างต่ำ 500 ชั่วโมงเท่านั้น นี้เป็นองค์ที่ 3 ในเสนาสนะ ที่จะมีขนาดหย่อน หรือมีขนาดเกินควรไป ย่อมไม่ได้ (เพื่อเพื่อเก็บไว้) จริงอยู่ ภิกษุเทียวบินขนาดแล้วอาจเพื่อกลับมาวุทลาตน ใน เสนาสนะใด เสนาสนะนั้น ทรงประสงค์เอา ในสิกขาบทนี้ แต่ ภิกษุรับมินตาไว้ ไปสั้นทางก็โยชน์หนึ่งของแล้ว แล้วกลั มาเพื่ออยู่ ที่นี้ไม่ใช่ประมาณ เป็นเสนาสนะมีความรังเกียจ และมีภัยเฉพาะหน้าเท่านั้น นี้เป็นองค์ที่ 4 จริงอยู่ ภิกษุผู้อยู่ใน เสนาสนะ ไม่มีความรังเกียจไม่มีภัยเฉพาะหน้า แม้ประกอบด้วยองค์ ก็ไม่ได้ เพื่อจะเก็บไว้ จะนี้แล สองกว่า อนุญาตุ ภิกษุสมิติ มีความว่า เว้นไว้แต่ โอกาสพิสดมื ที่ทรงอนุญาตไว้ในอุกโทษสิกขาบท ก็ล่าวว่า มี ภิกษุได้สมมิตินั้นไว้ จะอยู่ปราศจากเกิน 6 ราตรีไปก็ได้ คำว่า ปุน คามสีมา โอกฤมิตา มีความว่า ถึงเสนาสนะ อยู่ทางคิดจะนอกจากโครงาม และภิกษุนี้ จะไปยังคิดจะวันตา เธอไม่อาจจะมายื่นเสนาสนะให้ทนอรุนที่ ๓ ขึ้น และลงสู่แม้สามารถ
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

หนังสือที่เกี่ยวข้อง

Load More