การโจทก์และแนวทางการวินิจฉัยในกระบวนการยุติธรรม ทุติยสมันตปาสาทิกา ภาค 1 หน้า 155
หน้าที่ 155 / 450

สรุปเนื้อหา

บทความนี้อธิบายการโจทก์ในกระบวนการยุติธรรม โดยมุ่งเน้นไปที่การจำแนกประเภทของการโจทก์และวิธีการวินิจฉัยตามหลักการกฎหมายไทย โดยประกอบไปด้วยความหมายของเบื้องต้น การท่ามกลาง และที่สุดของการโจทก์ พร้อมทั้งหลักธรรมที่โจทก์และจำเลยควรปฏิบัติตาม เพื่อให้กระบวนการยุติธรรมเป็นไปอย่างบริสุทธิ์และยุติธรรม สามารถนำไปใช้ในด้านการศึกษาหรือการปฏิบัติงานในกฎหมายได้ โดยไม่มีการอ้างถึงเว็บไซต์อื่นนอกจาก dmc.tv

หัวข้อประเด็น

-การโจทก์
-การวินิจฉัย
-ธรรมในกฎหมาย
-ประเภทของการโจทก์
-กระบวนการยุติธรรม

ข้อความต้นฉบับในหน้า

ประโยค(ตอน) - ดูข้อความบนปากกาแปลง ภาค ๑ - หน้าที่ 154 จำเลยและโจทก์แล้ว พึงทราบวินิจฉัยด้วยสามารถแห่งเมืองต้น ท่าน กลางและที่สูงเป็นต้น เพื่อรู้ความสมบัติเบื้องต้นแห่งการ โจทก์นั้นเอง คืออย่างไร? คือ การโจทก์อะไรเป็นเบื้องต้น มีอะไรเป็นท่ามกลาง มีอะไรเป็นที่สุด ขอโอกาสว่า " ข้าพเจ้าใครจะกล่าวทะท่าน. ขอท่านผู้มีอายุ จงทำโอกาสให้แก่ข้าพเจ้า" ดังนี้ ชื่อว่า เบื้องต้นแห่งการโจทก์. การโจทก์แล้วให้จำแนกให้การตามวัตถุที่ขึ้นบรรยายฟ้องแล้ว วินิจฉัย ชื่อว่า ท่ามกลางแห่งการโจทก์. การระงับด้วยให้จำแนกอยู่ในอาบัติ หรือ อนาบัติ ชื่อว่า ที่สุด แห่งการโจทก์. การโจทก์ มีค่าเท่าไร? มีวิตกุว่าไหม? มีภูมิเท่าไร? มีภูมิเท่าไร ? การโจทก์มีดูด ๒ คือ มูลมิกเหตุ ๑ มูลไม่มีเหตุ ๑ (มูลมิกสุด มูลไม่มีมูล ดี) มูลดูด ๓ คือ ได้เห็น ๑ ได้ยิน ๑ ได้รู้เกี่ยว ๑ มี ภูมิ ๕ คือ จากพูดคามาก จักไม่พูดโดยกล่าวไม่ควร จักพูดตามจริง จักไม่พูดโดยคำไม่จริง จักพูดด้วยคำอ่อนหวาน จักไม่พูดด้วย คำหยาบ จักพูดอัดคำประกอบด้วยประโยชน์ จักไม่พูดคำที่ไม่ ประกอบด้วยประโยชน์ ๑ จักมีจิตประกอบด้วยเมตตาดูด จักไม่เพ่ง โทษพูด ๑ กิในการโจทก์นี้ บุคคลผู้เป็นโจทก์ พึงตั้งอยู่ในธรรม ๔๕ อย่าง ที่พระผู้มีพระภาคตรัสไว้ในอุปาลิเอว โดยนัยเป็นต้นว่า "เราเป็น ผู้มีกายสมาจารบริสุทธิ์หรือหนอเลย" ผู้เป็นจำเลย พึงตั้งอยู่ในธรรม
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

หนังสือที่เกี่ยวข้อง

Load More