การวิเคราะห์ความหมายในพระธรรม ทุติยสมันตปาสาทิกา ภาค 1 หน้า 102
หน้าที่ 102 / 450

สรุปเนื้อหา

บทความนี้เน้นการวิเคราะห์ความหมายของคำต่างๆ ในพระธรรม แสดงให้เห็นถึงการสื่อสารทางศาสนาและการเสวนาระหว่างภิกขุและประชาชน ตัวอย่างคำพูดและการใช้ภาษาที่มีความสำคัญต่อการเข้าใจภาษาในบริบทที่แตกต่างกัน เนื้อหาจะช่วยให้ผู้อ่านเข้าใจประเด็นหลักในการสื่อสารที่เกิดขึ้นในสังคมและในความสัมพันธ์ระหว่างบุคคล อธิบายถึงความรู้สึกและความหมายที่แท้จริงของคำในธรรมซึ่งเป็นตัวเชื่อมโยงระหว่างผู้พูดและผู้ฟัง โดยให้ความสำคัญกับประสบการณ์ของผู้ที่ได้รับการสอนและคำสอนที่ถูกนำเสนอในรูปแบบต่างๆ ประเทศในพระธรรมจึงเป็นแหล่งความรู้ที่สำคัญในด้านจิตวิทยาและสังคม.

หัวข้อประเด็น

-การวิเคราะห์คำในพระธรรม
-การสื่อสารทางศาสนา
-ความหมายของคำในบริบท
-การเข้าใจความรู้สึกในสังคม
-สำคัญของการสอนในศาสนา

ข้อความต้นฉบับในหน้า

กระโปง) - ทัศนสมันดป่าเขาสำหรับกเปน ภาค ๑ - หน้าที่ 101 อธิบายว่า "เธอเป็นผูงามแล้วแต่ว่าไหน?" แม้ในคำว่า ตโต อะ ควา อาจอาจมิ นี้ ก็มิ่น้อยอย่างนั้น เหมือนกัน. บทว่า อุพพาทโม มีความว่า เป็นผู้กล้าส่งรบวก คือ ก่อให้ เกิดความรำคาญ. ในคำว่า โถ สกุณสูงโม ภิกขุ ปฏติ ยาติ นี้ มิวิฉินจัย ดังนี้:- ฝุนกอผูมิรู้คำพูดของภิกขุ, แต่พระองค์พระภิกข้า ทรง กระทำให้พวกมันรู้โดยอานภาพของพระองค์. คำว่า อปาห์ เต น ชานม มีความว่า เออ เราก็ไม่รู้จัก ชนเหล่านั้นว่า "ชนเหล่านี้ เป็นคนพวกไหน หรือว่า ชนพวกนี้ เป็นคนของใคร." สองบทว่า สงฺคมฺ ยานมฺ มีความว่า ชนเหล่านั้นพากันมา คือ รวมกันเป็นพวก ๆ อ่อนนอนของอยู่. คำว่า ยานโก อุปฺปโย มีความว่า บุคคลผู้ขอย้อมไม่ เป็นที่รัก (ของผู้อง). คำว่า ยาอ อทหมปฺปโย มีความว่า สิ่งที่คนอื่นของ ท่าน เรียกว่า ยาง, แม้ผู้ไม่ใช่ซึ่งประโยชน์ที่เขาของ ยอมไม่เป็นที่รัก (ของคนผู้อง). อีกอย่างหนึ่ง บทว่า ยาย ได้แก๋ ของบุคคลผู้อยู่. คำว่า อทหมปฺปโย มีความว่า ผู้ไม่ให้ (แก่ผู้อง) ยอม ไม่เป็นที่รัก (ของผู้อง).
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

หนังสือที่เกี่ยวข้อง

Load More