ข้อความต้นฉบับในหน้า
ประโยค(ตอน) - ทุติยสัมปดากาสิกาแปลภาค ๑ หน้า ที่ 190
ของชอบธรรม เมื่อไม่สะด่อย่างนั้น ย่อมต้อง (อาบัติ)
บทว่า อสมุญาณุตสม มีความว่า เมื่อไม่ถูกสอดสมานุษฐ์
แม้ไม่ยอมสละ ก็ไม่ต้องอาบัติสัมปดากัส.
บทว่า ปฎิสนุกสนุตสม มีความว่า ไม่ต้องอาบัติ
ส่งมากเสสดแก่กิฬผูเสละเสียก่อนแต่ศุรติ หรือในนะศุรติ หรือใน
เวลานะศุรติ หรือเพียงที่สวดตั้งไม่ถึง ย อักษร แห่งอนุสาวนา
ที่ จิดี ที่ ๒ จิดี ที่ ๓ จิดี.
บทว่า อาทิกมิมุตสม มีความว่า ก็ในสถานบทนี้ พระเทวตั
เป็นต้นอุปบัติ เพราะลิขิตมาในคัมภีร์วิริวว่า "พระเทวตั
ได้พยายามทำลายสงฆ์พร้อมเพรียงกัน, ทรงปราบพระเทวตัใน
เพราะเรื่องนั้น" ก็พระเทวตันั้นเป็นต้นอุปบัติแห่งการพยายาม
เพื่อทำลายสงฆ์เท่านั้น หาได้เป็นต้นอุปบัติแห่งการไม่ยอมสละไม่.
เพราะว่า กรรมมัน สูงไม่ได้ทำแก่เธอ.
ถ้ามีคำถามว่า "กิณีที่กล่าวนี้ พึงทราบได้อย่างไร ?"
ตอบว่า "พึงทราบได้ โดยพระสูตร."
เหมือนอย่างว่า กรรมย่อมปรากฏว่า สูงทำแล้วแก่องค์อุฌ.
ภิญญ เพราะบิตามในคัมภีร์วิริวว่า "อธิฤทธิวิปุร"
เป็นคนม่าแรง ไม่ยอมสละด้วยสมุญาณ จนถึงครั้งที่ ๓ ทรง
ปราบอธิฤทธิในเพราะเรื่องนั้น" ดังนี้ ฉันใด, กรรมจะได้
ปราบฤทธิ์ว่าสงฆ์พระเทวตั ฉันนั้น หมาได้. แม้ว่าใคร ๆ
จะพูดกล่าวด้วยเหตุสุขว่า ความชอบใจของตนเท่านั้นว่า "กรรมอันสงฆ์