ข้อความต้นฉบับในหน้า
ประโยค - ทุตตะสมันต์ปาสากนกเปล ภาค ๑ - หน้าที่ 152
เลิก ภญุ๒ รูปผู้เป็นความกันในอรรถคดี ได้จ้องคำให้เป็นไป.
รูปหนึ่งไม่ให้ปฏิญญาโดยปฏิสรว่า "แม้อันนี้ก็ไม่มี ถึงเรื่องนั้น ก็ไม่มี." คงนั้น เมื่อปฐมยามยังอ่อน พระเถระเกิดความเข้าใจว่าไม่บริสุทธิในบุคคลนั้นว่า "ผู้ซึ่งยันตนดู, ผู้ซึ่งไม่ให้ปฏิญญา และเรื่องชมมาเป็นอุทาหรณ์มีมาก, กรรมนี้ จัดเป็นของอันบุคคลนั้นทำแล้วแน่นอน." ครั้งนั้น พระเถระได้ให้สัญญาว่าแผ่น กระเบื้องเช็ดเท้าด้วยคำพัดแล้วกล่าวว่า "คุณ ! เราไม่สมควรจะวิจฉฉัย, เธอจงให้คนอื่นวิจฉฉึก." พวกภิกษุณว่า "เพราะเหตุไร ขอรับ ?" พระเถระได้บอกเนื้อความนั้น. ความเร่าร้อนเกิดขึ้นในกายของบุคคลผู้เป็นจำเลย. ครั้งนั้น จำเลยไหวพระเถระแล้วกล่าวว่า "ธรรมคาถาพระวินัยร้อนหนาเศร้าเพื่อวิจฉฉัย ควรเป็นผู้เช่นท่านนั้นแหละ และผู้โจทก์ก็ควรเป็นเช่นท่านผู้นั้น" แล้วจึงพึ่งขอว่ากว่า "ผมทำให้ท่านลำบากนานแล้ว" ขอบพระเถระแล้วกลิ่นไป.
อลัชชีภิถูกอลัชชีภิถูกออยู่ในนี้ เมื่อเรื่องแม่เป็นอ่อนมาก เกิดขึ้นแล้ว ก็ไม่ใช่ปฏิญญา. อลัชชีภิญั้น พระวินัยธรไม่ควรกล่าวว่า "เป็นผู้บริสุทธิ์" ทั้งๆอจะกล่าวว่า "เป็นผู้ไม่บริสุทธิ์." บุคคลนี้ ชื่อว่าว่าเป็น ชื่อว่าน่ำคำ. ก็ถ้าว่า เรื่องแม้นั้นเกิดขึ้นแก่เขา, พระวินัยธรไม่ต้องวิจฉฉัย. เขาจักต้องฉินทายไปอย่างนั้นนั่นเอง.
อธิปดี ถ้ามะสบดี โจทยอดิอาอธิปดีด้วยกัน, พระวินัยธรควรพูดแนะ โจทย์กันว่าว่า "แน่คุณ ! ผู้นี้ใคร ๆ ไม่อาจว่ากล่าวอะไร ตามคำ