การรับและการใช้วัตถุมงคลในพระพุทธศาสนา ทุติยสมันตปาสาทิกา ภาค 1 หน้า 359
หน้าที่ 359 / 450

สรุปเนื้อหา

เนื้อหาเกี่ยวกับการรับวัตถุมงคลในพระพุทธศาสนา โดยอธิบายถึงอาบัติที่เกิดจากการรับและการใช้วัตถุ รวมถึงการปฏิบัติต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง เหตุการณ์ที่ผู้ภิกษุควรระวังในการใช้และรับวัตถุ เพื่อรักษาศีลและปฏิบัติในเส้นทางทางธรรม เมื่อมีกรณีการใช้เงินทองที่เก็บไว้ ซึ่งมีวิจฉัยต่าง ๆ ในการยินดีเงินทองที่พระสงฆ์ควรปฏิบัติให้ถูกต้องตามหลัก

หัวข้อประเด็น

-การรับวัตถุมงคล
-อาบัติในการรับ
-วิจฉัยเกี่ยวกับการใช้เงินทอง
-ความสำคัญของจิตบริสุทธิ์
-การปฏิบัติตามหลักธรรมในพระพุทธศาสนา

ข้อความต้นฉบับในหน้า

ประโยค(ฉ) - ดูดเอมดปาสภากาแปล ภาค ๑ - หน้าที่ 358 บทข้างหน้า แก่ภิกษุผู้รับวัตถุมงคลเป็นต้นแม่ทั้งหมด ด้วยหน้าที่แห่ง ภัณฑาคาริก เพื่อฉลองการเก็บไว้ [ว่าด้วยการรับ การใช้รับ และวิธีปฏิบัติในฐาปปย] บทว่า อุดคคุณหยหย แปลว่า พึ่งถือเอา ก็เพราะเมื่อภิกษุ รับเอาจึงต้องอาบัติ ฉะนั้น ในบทกษนะแห่งบรรพ นั้น อุดคคุณหยหย นั่น จึงกล่าวว่า ภิกษุของตน เป็นนิสสัคคีย์ปัจฉิมะดี แม้นบทที่ เหลือ ก็มีน้อยอย่างนี้ ในการรับเองและใช้รับนั้น มีวิจฉัยดังนี้ :- เป็นอาบัติอย่างเดียวแก่ภิกษุของตน หรือใช้รับวัตถุสิ่งเดียว ในบรรดา ภัณฑะ คือ ทอง เงิน ทั้งหามนะ และมกส. ถ้ามั่นว่า ภิกษุรับ เอง หรือใช้รับตั้งพันอย่างรวมกัน เป็นอาบัติถานตามจำนวนวัตถุ แต่ในมหาปฐวี และกฤษณี กล่าวรวมกันว่า "เป็นอาบัติ โดยฉบับ ในภูที่ผูกไว้อย่่อน ๆ หรือในภาชนะบรรจุไว้หลวม ๆ ส่วนในถุง ที่ผูกไว้แน่น หรือในภาชนะที่บรรจุแน่น เป็นอาบัติองค์เดียวเท่านั้น." ส่วนในการยินดีเงินทองที่เขาเก็บไว้ มีวิจฉัยดังนี้ :- เมื่อเขา กล่าวว่า "นี้เป็นของพระผู้เป็นเจ้า" ถ้ามั่นภิกษุยินดีด้วยอิฉนี้ เป็นผู้ ใคร่จะรับเอาด้วยกายหรืออาวุธา แต่ปฏิสนธิ ว่า "นี้ไม่ครู" ไม่เป็น อาบัติ." แม้มิห้ามด้วยอายและวาจา เป็นผู้มีจิตบริสุทธิ์ ไม่มิคดีด้วย คิดว่า "นี้ไม่ครูเองเรา" ไม่เป็นอาบัติเหมือนกัน. จริงอยู่ บรรดา ไตรทวาร อันภิหายห้ามแล้วด้วยวาจาใดวาจาหนึ่ง ย่อมเป็นอันห้าม
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

หนังสือที่เกี่ยวข้อง

Load More