ทฤษฎีสมดุลของกัลป์ ทุติยสมันตปาสาทิกา ภาค 1 หน้า 137
หน้าที่ 137 / 450

สรุปเนื้อหา

บทเรียนจากอาจารย์เกี่ยวกับการพิจารณาทฤษฎีสมดุลของกัลป์ ภายในเรื่องราวของพระเณรและคำกล่าวที่ว่า 'ไม่ใช่ผู้ทำ (ผิด) ไม่มีโทษ' ซึ่งทำให้เราต้องพิจารณาสูตรและหลักฐานในพระบาลีอย่างลึกซึ้งถึงความหมายของ 'ปกติติ' และสถานะต่างๆ ของสงฆ์ในสภาวการณ์ที่กล่าวถึง.

หัวข้อประเด็น

-ทฤษฎีสมดุล
-การตีความในพระบาลี
-พระเณรและความผิด
-หลักการของปกติติ

ข้อความต้นฉบับในหน้า

ประโยค(ตอน) - ทฤษฎีสมดุลของกัลป์ภาค ๑ - หน้า ที่ 136 อาจารย์เรียนว่า "พระคุณเจ้าผู้งเจริญ! ในวาทะของพวกท่าน พระเณร ไม่ใช่ผู้ทำ (ผิด) ไม่มีโทษ." ก็ใน ๒ สูตรนี้ สูตรไหนถูก เล่า ? สูตรที่กล่าวหาสาวก ง เพราะสูตรนี้ พระอรรถกถากรย ทั้งหลายวิตารณ์ไว้แล้ว ก็ถูกตามกำจัดกิอด้วยอันติวามวัตถูอัน ไม่มีผู้ เป็นสงฆ์เทส, ตามกำจัดนางภิญญ์ เป็นทุกๆ แดนในกรณีที่กล่าวว่า "เป็น ปกติติ" เพราะสุขาวทา ในยึดก่อนและหลังนั้น มีการพิจารณา ดังต่อไปนี้:- นัชฉัน เป็นเพียงทุกกฎท่านั้น ถูกก่อน เพราะมีความ ประสงค์จะตามกำจัด. แม้มีอาการกล่าวเท็จ ก็เป็นสงฆ์เทสแกล ก็ถูกในพระภิญญ์ในพระภิญญ์ด้วยกัน และเมื่อมีการกล่าวเท็จ ก็เป็น ปกติติ เพราะโบสวาทเท่านั้น แกก็ฎกฏผู้มีความเห็นว่าบริสุทธิ์ โทกฎกฎผู้ไม่บริสุทธิ์ ด้วยความประสงค์จะค่า ไม่ใช่ในจิตติ เพราะสัมปชานมูลวา ฉันใด, แม้นอธิการนี้ ก็ฉันนั้น เป็น ปกติติ เพราะสัมปชานมูลวา ไม่ถูก เพราะมีความประสงค์จะค่า ตามกำจัด, เป็นเพียงทุกกฎเท่านั้น ถูกแล้ว. แม้นหลัง เป็น ปกติติอย่างเดียว ก็ถูก เพราะเป็นมูลวาท แต่อาการหลักฐานทาง พระบาลี ไม่มีว่า "เป็นสงฆ์เทสแกลกิญจะ ในพระภิญญ์ด้วยกัน กับกิญจะผู้มีความประสงค์จะค่า เพราะมุสาวาท, แต่เป็นทุกกฎกฎผู้มีความประสงค์จะค่า ในพระโอมวาทา และเพราะตามกำจัด นางภิญญ์," มีคำว่า "เป็นปกติติ" ในพระสัมปชานมูลวา;
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

หนังสือที่เกี่ยวข้อง

Load More