การโจทในพระพุทธศาสตร์ ทุติยสมันตปาสาทิกา ภาค 1 หน้า 149
หน้าที่ 149 / 450

สรุปเนื้อหา

บทนี้เสนอการศึกษาเกี่ยวกับการโจทในพระพุทธศาสนา โดยเจาะลึกถึงการพักปฏิโมกข์ที่มีอยู่ ๑๑๐ แบบ ซึ่งได้แก่การโจทจากการเห็น การได้ยิน และการรู้สึกต่างๆ รวมถึงการอธิบายลักษณะของภิกษุที่โจททั้งในด้านกาย วาจา และใจที่มีผลต่อการปฏิบัติในธรรมและการศึกษาในพระพุทธศาสนา การเข้าใจในโครงสร้างของการโจทถือเป็นส่วนสำคัญในการศึกษาธรรม และช่วยให้เกิดความเข้าใจอย่างลึกซึ้งในคำสอนของพระพุทธเจ้า หากต้องการศึกษาหรือเข้าใจพระธรรมเพิ่มเติมสามารถเข้าไปที่ dmc.tv

หัวข้อประเด็น

- การโจทในพระพุทธศาสนา
- ประเภทของการพักปฏิโมกข์
- ระบบการโจทของภิกษุ
- การศึกษาอธิกรณ์ในพระพุทธศาสนา

ข้อความต้นฉบับในหน้า

ประโยค (ตอน) - ดูอสมัญตปลา สักกาแปล ภาค ๑ หน้า ที่ 148 ไม่ใช่สมณะ ท่าน ไม่ใช่เหล่าเถาเหล่าเศกฤทธา " นั้นแหละ อาบัติ ถึงที่สุด ก็กิญาอุปจารสิ่งที่ตนต้องการด้วยข้าวดิบและข้าวสวย เป็นต้น ด้วยคำเพียงเท่านั้น ยังไม่จัดเป็นการ โจท ในปาฏิฆป ปฐมปัณฑุกชนัก ท่านพระอุบลิณกล่าวว่าโจทไว้วิถีถึง ๑๑๐ อย่าง คือ การโจทที่ไม่ฟ้องรำ ๕๕ ที่ฟ้องรำ ๕๕ อย่างนี้ คือ ตั้งแต่ พระคำสังทรัสว่า " คำอนุภิกขังหลาย ! การพักปฏิโมกข์ ที่ไม่ เป็นธรรมมีหนึ่ง การพักปฏิโมกข์ที่ฟ้องรำหนึ่ง " จนถึงการ พักปฏิโมกข์ที่ไม่ฟ้องรำ ๑๐ การพักปฏิโมกข์ที่ฟ้องรำ ๑๐ การโจทเหล่านั้น เป็น ๑๑๐ คือ ของภิกษุผู้โจทด้วยการได้เห็นเอง ๑๑๐ ของภิกษุผู้โจทด้วยการได้ยิน ๑๑๐ ของภิกษุผู้โจทด้วยความรังเกียจ ๑๑๐ การโจทเหล่านั้น เอา คุณ คือ สำหรับภิกษุผู้โจทด้วยกาย ผู้โจทด้วยวาจา ผู้โจทด้วยใจและวาจา จงรวมเป็น ๕๕๐ การโจท ๕๕๐ เหล่านั้น ของภิกษุผู้โจทด้วยตนเองก็ใช้ให้ผู้อื่นโจทก็มี จำนวนเท่านั้นเหมือนกัน; เพราะฉะนั้น จึ่งเป็นโจท ๑๐๐ อย่าง, นับทิตพิมพารวบอีกว่า " การโจทมีกหลายพัน ด้วยอำนาจโจทที่มี มูลและไม่มีมูล ในความต่างแห่งมูลมิสิ่งที่ได้เห็นเป็นต้น. [ อธิบายโจทก์และจำเลยตามวรรคถ่านัย ] องค์นี้ พระอรรถถาการย์ตั้งอยู่ในฐานะนี้แล้ว นำเอาสุตรเป็น อันมากที่พระฉันพระภาคตรัสแล้ว ในนวมาสัปจจะเป็นต้น อย่างนี้ว่า " คู่อ่านอุบาสิ ! ภิกษุผู้ประสงค์จะรับอธิกรณ์ พึงรับอธิกรณ์ประกอบ
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

หนังสือที่เกี่ยวข้อง

Load More