ข้อความต้นฉบับในหน้า
ประโยค (ตอน) - ดูอสมัญตปลา สักกาแปล ภาค ๑ หน้า ที่ 148
ไม่ใช่สมณะ ท่าน ไม่ใช่เหล่าเถาเหล่าเศกฤทธา " นั้นแหละ อาบัติ
ถึงที่สุด ก็กิญาอุปจารสิ่งที่ตนต้องการด้วยข้าวดิบและข้าวสวย
เป็นต้น ด้วยคำเพียงเท่านั้น ยังไม่จัดเป็นการ โจท ในปาฏิฆป
ปฐมปัณฑุกชนัก ท่านพระอุบลิณกล่าวว่าโจทไว้วิถีถึง ๑๑๐ อย่าง คือ
การโจทที่ไม่ฟ้องรำ ๕๕ ที่ฟ้องรำ ๕๕ อย่างนี้ คือ ตั้งแต่
พระคำสังทรัสว่า " คำอนุภิกขังหลาย ! การพักปฏิโมกข์ ที่ไม่
เป็นธรรมมีหนึ่ง การพักปฏิโมกข์ที่ฟ้องรำหนึ่ง " จนถึงการ
พักปฏิโมกข์ที่ไม่ฟ้องรำ ๑๐ การพักปฏิโมกข์ที่ฟ้องรำ ๑๐
การโจทเหล่านั้น เป็น ๑๑๐ คือ ของภิกษุผู้โจทด้วยการได้เห็นเอง ๑๑๐
ของภิกษุผู้โจทด้วยการได้ยิน ๑๑๐ ของภิกษุผู้โจทด้วยความรังเกียจ
๑๑๐ การโจทเหล่านั้น เอา คุณ คือ สำหรับภิกษุผู้โจทด้วยกาย
ผู้โจทด้วยวาจา ผู้โจทด้วยใจและวาจา จงรวมเป็น ๕๕๐ การโจท
๕๕๐ เหล่านั้น ของภิกษุผู้โจทด้วยตนเองก็ใช้ให้ผู้อื่นโจทก็มี
จำนวนเท่านั้นเหมือนกัน; เพราะฉะนั้น จึ่งเป็นโจท ๑๐๐ อย่าง,
นับทิตพิมพารวบอีกว่า " การโจทมีกหลายพัน ด้วยอำนาจโจทที่มี
มูลและไม่มีมูล ในความต่างแห่งมูลมิสิ่งที่ได้เห็นเป็นต้น.
[ อธิบายโจทก์และจำเลยตามวรรคถ่านัย ]
องค์นี้ พระอรรถถาการย์ตั้งอยู่ในฐานะนี้แล้ว นำเอาสุตรเป็น
อันมากที่พระฉันพระภาคตรัสแล้ว ในนวมาสัปจจะเป็นต้น อย่างนี้ว่า
" คู่อ่านอุบาสิ ! ภิกษุผู้ประสงค์จะรับอธิกรณ์ พึงรับอธิกรณ์ประกอบ