ข้อความต้นฉบับในหน้า
ประโยค(๗) - ดูดอีมดปลาสัตกามแปล ภาค ๑ - หน้าที่ 270
ภูกุญชยา ติเตสมานาต ตติสุดสามเนสรสุด ตติสุดสา
สามเนสรสุด วิภปปมิ ขาเจ้าวปี... แก่ตีสาส ภูกุญชยา, แก่ตีสาส
ติเกามานา แก่ตีสามเนสร แก่ตีสาส สามเนสร " ดังนี้ นี่เป็น
วิภปอหน้า อีกอย่างหนึ่ง. ด้วยการวิภปเพียงเท่านี้ จะเก็บไว้
สมควรอยู่ แต่ในการใช้ออเป็นต้น ก็เมื่ออย่างหนึ่ง ย่อมไม่ควง.
แต่เมื่อภูกุญชนั้นกล่าวว่า "จิรัชนี้ ของภูกุชชื่อสาส ฯ ฯ ฯ ของ
สามเนสรชื่อสาส ท่านจงบริโภคตาม จงนำท่ายตาม จงกระทำ
ตามสมควรแก้ปัญัติ ตาม ดังนี้ ชื่อว่าเป็นอัน อดน จำเดิมแต่่นั้น
แม้การใชออยเป็นต้น ก็สมควร.
ถามว่า "การวิภปลับหลัง เป็นอย่างไร ?"
แก้ว่า "ภูกุพึงทราบว่า จิรัชนี้เดี่ยวสารองมาฝืน และว่าจิราว
วางไว้ใกล้ หรือเปรียบไว้ใกล้ เหมือนอย่างนั้นแล้ว กล่าวว่าจะ "อิม
จิรัช นี้" หรือว่า "อิมาน จิราวน" ซึ่งจิราวทั้งหลายนี้"
ว่า "เอต จิราว นี้" หรือว่า "เอตาน จิราว นี้" ซึ่งจิราว
ทั้งหลายนันั้น ดังนี้ แล้วกล่าวว่า วัฑุ วิภปนตุยย ทมมึ ขำเจ้่า
ให้แก่ท่าน เพื่อประโยชน์แกการวิภป. ภูกุผู้กับ อันภูกุผู้วิภป
นั้น พึงกล่าวว่า "ใครเป็นมิตร หรือเป็นเพื่อนเห็น หรือเป็นเพื่อน
คบกันของท่าน." ลำดับนั้น ภูกุผู้กับนอกก็พึงกล่าวว่า "ภูกุชื่อสาส
หรือว่า ฯ ฯ ฯ สามเนสรุติสาส" โดยข้อนั้นแหละ. ภูกุนี้พึงกล่าว
อีกว่า "อหิ ติสุดสาส ภูกุโน ทมมึ ขำเจ้าให้แกภูกุชื่อสาส"
ฯ ฯ ฯ หรือว่า "อหิ ติสุดสาย สามเนสรา ทมมึ ขำเจ้าให้แก่