ข้อความต้นฉบับในหน้า
2.1.3 การศึกษาฝ่ายค้นธรร
นับแต่วันแรกของการบวช พระภิษุสุดศึกษาทั้งภาคบริษัทและปฏิบัติ
ควบคู่กัน ในฝ่ายปริยติท่านท่องบทสวดมนต์จบทั้งเล่มรวมทั้งพระปริยโมกข์
ด้วยภายในพระราชก จระหว่างที่ท่องบทสวดมนต์นั้นท่านสะดุดใจกับคำว่า
"อภิชาชปจูยา" เมื่อไปสอบถามความหมายจากพระภิษุภายในวัดก็ได้
คำตอบว่า ถ้าอยากรู้ต้องไปเรียนที่กรุงเทพฯ เมื่อเวลาผ่านไปรา1 7 เดือนเศษ
หลังจากการอุปสมบทท่านจึงเดินทางมาจำพรรษาที่วัดพระเชตุพนฯ เพื่อศึกษา
เล่าเรียนพระธรรมวินัย
ในขณะนั้น ยังไม่มีการแปลงพระไตรปิฏกเป็นภาษาไทยอย่างเป็นเรื่องเป็น
ราว แม้นเนื้อหาบางส่วนจะเคยมีการแปลออกมาบ้างตั้งแต่ยุคกรุงศรีอยุธยาแล้ว
แต่มิได้แพร่หลาย2 ผูสนใจศึกษาพระธรรมวินัยจึงต้องเรียนภาษาบาลี โดยเริ่ม
ต้นจากการท่องสูตรเรียนมูลกัลยาณ3 จบไวยากรณ์แล้วจึงเริ่มแปลคำศัพท์ตาม
3 มูลกัลยาณ มีชื่อเต็มว่า คัมภีร์กัลยาณมูลภาค 1 เป็นแบบแผนสำลีวางในที่เรียบเรียงโดยพระ
เทรชาวไทยผู้คลาดในบาลีไวยากรณ์โดยเก็บสาระแม่นจากคัมภีร์กัลยาณอันดั้งเดิมมาเรียบ
เรียงใหม่ ใช้เป็นแบบในการศึกษาบาลีไวยากรณ์ในสมัยก่อนมาหลายยุคหลายสมัยก่อนที่จะปรับเปลี่ยนเป็น
หลักสูตรบาลีไวยากรณ์แบบใหม่ในปัจจุบันซึ่งได้ปรับตราให้เข้าใจง่ายขึ้น
(ข้อมูลอ้างอิงจาก)
2 การแปลพระไตรปิฎกเป็นภาษาไทยอย่างเป็นเรื่องเป็นราวและครอบคลุมตั้งแต่ปี พ.ศ. 2483
โดยดำรจาของสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช (แพ ติสสเทวมหาเถร) วัดสุทัศน์
เทววราราม เป็นโครงการในพระบรมราชูปถัมภ์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวองค์ปัจจุบัน มี
พระมหาเถรและพระเถรานุวัตรยูร่วมกันดำเนินเป็นคณะ แล้วเสร็จและจัดพิมพ์เป็นเล่ม
ครั้งแรกที่พิมพ์ลอง 25 พฤศจิกายนในปี พ.ศ. 2500 ในโรงพิมพ์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
พระองค์ปัจจุบัน
3 มูลกัลยาณ มีชื่อเต็มว่า คัมภีร์กัลยาณมูลภาค 1 เป็นแบบแผนสำลีวางในที่เรียบเรียงโดยพระ
เทรชาวไทยผู้คลาดในบาลีไวยากรณ์โดยเก็บสาระแม่นจากคัมภีร์กัลยาณอันดั้งเดิมมาเรียบ
เรียงใหม่ ใช้เป็นแบบในการศึกษาบาลีไวยากรณ์ในสมัยก่อนมาหลายยุคหลายสมัยก่อนที่จะปรับเปลี่ยนเป็น
หลักสูตรบาลีไวยากรณ์แบบใหม่ในปัจจุบันซึ่งได้ปรับตราให้เข้าใจง่ายขึ้น
บทที่ 2 ข้อมูลพื้นฐาน | 45