ข้อความต้นฉบับในหน้า
หลักฐานธรรมภายในคัมภีร์พุทธโบราณ 1 ฉบับวิชาการ
เห็นแสงดาวได้พระนัณได้ชื่อสงรัฐนะแล เห็นแสงเดือนชื่อว่าธรรมธนะแล ชี้หนทางนิพพานแหล125 (ญาณว. 16.3)
พระสัทพุทธคุณพระพุทธเจ้า ก็โปรดบรรดาสัตว์ทั้งหลายมวล ก็มา ประดิษฐานตั้งไว้ยังพระธรรมเจ้าทั้งสามไตร คือว่าผ้าสามผืน อันตราวสกล และอุตตระ สังกาฯอเน คอได้แก่สรณคมน์ทั้งสามแส (พุทธน. 1.4)
ข้าจักกมเอาพระอภิธรรม นิสสวาต นั่งอยู่เหมือนดังผ้่าสังฆาริฟไว้ นิ่ง อยู่ให้ดีสิเทออคือได้ผลสิทึ่เป็นดังว่ามาแต่ภายหลังนั้นแล คืออนโลมปฎิม ด้วยญาณสถิตสมาธิทุกเมื่อแล้วจึงได้ชื่อว่าวารนั่งไตรสรณคมน์ทั้งสามจริง แด (ญาณน. 12.4)
mandั้นในโควดาว การเข้าถึงพุทธธนะ ธรรมธนะ และสังธรนะจะ กระทำได้ดีนะละหนึ่งครั้งเท่านั้น โดยเริ่มจากสังธรนะไปหาพุทธธนะ ดังนั้น “ผู้ที่ทรงตราสมคม” จึงเป็นคำเรียกโดยรวมหมายถึงผู้ที่ได้โลกรุตธรรม ระดับระดับหนึ่ง ประเด็นนี้ นับได้ว่าเป็นความแตกต่างกันระหว่างโควดาจร และวิชชาธรรมภาย
4.3.2.5. การเห็นพระอริยสงฺฆ126
เรื่องของการเห็นพระอริยสงฺฆมีคำกล่าวไว้ในการปฏิสังขรณ์ขั้นพระอริยสงฺฆ 8 ในหลักสูตร 11 ชั้น ดังที่บันทึกไว้ในคัมภีร์มูลพระกัมมัฏฐาน
125 ข้อความที่สื่อถึงพุทธธนะอาจจารตกไป แต่ก็อาจจะประมาณเนื้อความได้จากตัวอย่างข้อความที่คล้ายกันในคัมภีร์รังพันธะ
126 นำมาจากงานวิจัย “สมาธิวาณาในคัมภีร์ใบลานเขมร” (พระปอเหมาะ ธมฺมิโต 2557)