ข้อความต้นฉบับในหน้า
หลักฐานธรรมาภายในคัมภีร์พุทธโบราณ 1 ฉบับวิชาการ
จากเนื้อหาข้างบน ทางสายกลางซึ่งกล่าวการไม่นำชีวิตไปคลุกคลีกับความสุขใดๆอย่าง คือการทรมานตนและการหมกมุ่นในกาม นับเป็นการดำเนินชีวิตบนความพอใจ ซึ่งในภาษาอัสสัมสมัยใหม่อาจเรียกว่า "ภาวะแห่งความสมดุล" หรือ "ภาวะแห่งความพอใจ" ซึ่งพระพุทธศาสนาสอนว่าเป็นสิ่งสำคัญจะนำไปสู่คำรมรรธรรมได้
ในทางพีสกฤษมีฐฺโยเกี่ยวกับเรื่องความสมดุลว่า การที่ว่าถอยในสภาวะสมดุลแสดงว่าต้นหยุดชงิ่ง ใจของเราก็เช่นกัน ใจที่สมดุล แสดงว่าใจนั่งหยุดนั่ง
การที่ว่าถอยหยุดนิ่งและอยู่ในภาวะสมดุลนั้นมีความสัมพันธ์กับ "จุดศูนย์ถ่วง" (center of gravity) คือตำแหน่งศูนย์กลางมวลที่ทำให้วัตถุเกิดความสมดุลจากแรงดึงดูดของโลก ร่างกายมนุษย์ก็จัดเป็นวัตถุอย่างหนึ่งมีจุดศูนย์ถ่วงอยู่บริเวณกลางท้อง และนำแปลว่าตำแหน่งกลางท้องที่ว่าจึงคือ ตำแหน่งศูนย์กลางกายฐานที่ 7 พอดี เป็นจุดที่โลกส่งแรงโน้มถ่วงดึงดูดร่างกายมนุษย์ไว้ เพื่อไม่ให้กายมนุษย์หยุดออกไปจากโลก ใจที่วางไว้ตำแหน่งนี้ จึงเป็นใจที่หยุดนิ่งและมีภาวะสมดุล (Jherora 2013)
ในคำสอนของพระมงคลเทพมุนี มีข้อความระบุไว้ว่า ตำแหน่งของศูนย์กลางกายฐานที่ 7 เป็น "ฐานที่ตั้งดังเดิมของใจ" นั่นเป็นที่ตั้งของดวงธาตุทั้งสี่ (มหาจตุรูป) และภายในกลางของดวงธาตุทั้งสี่นั้น เป็นจุดที่แนะนำให้ผู้ปฏิบัติเน้นใจมาวาง ให้ใจหยุดนิ่ง เพื่อดำเนินจิตเข้าสู่เส้นทางสายกลาง (บ. มุษฎิมา ปฏิภาณ, ส. มะยามา-ปริดิทมา)
จึงมีความเป็นไปได้ว่า คำภีร์ฉบับนี้จึงจูงจูงให้อาจารย์นำปฏิบัติอานาปานสติอย่างต่อเนื่อง