ข้อความต้นฉบับในหน้า
ดวงใดดวงหนึ่ง หรืทั้งหมดอย่างดี (มูลสล. 1.10-2.2)
5. คำภีร์กล่าวถึงผลจากการปฏิบัติปัญญะว่า เมื่ทำให้ผิวสังขา วิปสนปัญญา^67บังเกิด ได้ชื่อว่าเป็นปัญญาระ จะให้ปัญญาวิปสนาญาณ เกิด พร้อมมีสัมผัสเป็นต้นจนถึงอณาลญาณนี้ที่สุด แล้วเข้าสู่โครฎฺ ญาณ ถึงมรรคร ผล อรหันตันได้เข้าถึง “เวียงแก้ว คือ อมตมหนครนิรันทร” ตามรอยบาทพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระปัจเจกพุทธเจ้า และพระอรหันต์เจ้าทั้งหลาย ผู้ไม่รู้เกิด ไม่รู้แก่ ไม่รู้ตาย (มูลสล. 2.2-2.6)
6. ให้มีความเพียรต่อเนื่อง อย่าเกียจคร้านหยุดๆ หย่อยๆ ให้เกรงกลัวในวัฏสงสารว่าเป็นดั่งหมูโจรทั้งร้อยถือดอกบัววิ่งไล่ตามฟันแทงมาหวดหวิดอยู่ (มูลสล. 2.7-2.9) และให้ระลึกถึงความตายเนื่องๆ เพื่อจะได้ไม่ประมาทและมีจินต์คงในพระกรรมฐานและธรรมที่เข้าถึง (ญาณค. 5.4-5.5)
7. ให้น้อมเอาพระพุทธเจ้า พระธรรม พระสงฆ์ พระกรรมฐาน และครูผู้สอนกรรมฐาน(แก้ว 5 โรกา) เป็นที่พึ่งเรื่อยๆ ทุกวัน ตั้งใจปฏิบัติวงจะได้เห็นธรรมวิเศษ จะได้ชัยชนะเข้าสู่ “เวียงแก้ว” คือพระนิพพาน (มูลสล. 2.9-3.2)
8. ประสบการณ์ภายในที่จะเกิดแก่ผู้ปฏิบัติ ได้ชื่อว่า “ธรรมวิเศษ” ได้แก่ ปีติ 5 ประการ และอุดหนิมิต ปฏิภาคนิมิต เกิดอุปจารสมาธิ อัปปนา สมาธิและฌาน 4 อภิญญา 5 สมาบัติ 8 ได้ภูมิจักขุวิสาสะสมญาณ อนุโลมญาณ โครภญาณ อริยเคราะห์ อริยมรรค อริยผล และนิพพาน (มูลสล. 3.2-3.5) ดังนี้ในบทสวด