ข้อความต้นฉบับในหน้า
อย่างไรก็ดีมาก พระอปเหม่าได้สรุปในที่สุดว่า คำภิรฐมพระกัมมัฏฐาน นี้ เป็นคำภิรฐ์ที่บันทึกผลจากการปฏิบัติธรรมของคนสมัยก่อนที่ได้รับบรรลสุมัติในระดับชั้นต่างๆ ตามหลักสูตรที่เขียนไว้ มีการสีทอดและเผยแผไปจากรุ่นหนึ่งไปสู่อีกรุ่นหนึ่ง ต่อมาคำภิรฐนี้มีการจารคดลอกและอาจจะมีอิริยาบเนื้อหาเพิ่มเติมในเชิงสัญลักษณ์และอธิบายตามสมภาวะธรรมต่างๆ ตามแนวทางการสอนของคนในยุคหลัง ผลที่เกิดจากการปฏิบัติที่ปรากฏในคำภิรฐนี้ ผู้ทำภาวนาสามารถมีประสบการณ์ภายในคือ กายเกิดดี เกิดดวงตาเห็นธรรม เห็นแสงสว่าง เห็นดวงแก้ว ดวงสีด เห็นพระพุทธเจ้า เห็นพระอริยสงฆ์ และการเข้าสู่บรรศไพสวรรค์ไปชั้นพรหมโลกเป็นต้น เมื่อเอาผลแห่งการปฏิบัติจากคำภิรฐนี้ไปเทียบกับวิสุทธิมรรค์ จะเห็นว่ามีผลแห่งการปฏิบัติตั้งแต่ระดับปี 5 เป็นต้นไปจนถึงชั้นอุปรพรหม
สิ่งที่แตกต่างกันระหว่างผลแห่งการปฏิบัติในคำภิรฐนี้กับวิชชาธรรมก็คือ เนื้อหาในคำภิรฐนี้จะรายละเอียดประสบการณ์ภายในเพียงในเบื้องต้น โดยมิได้แสดงรายละเอียดของการเข้าถึงธรรมในชั้นสูงขึ้นดังที่พระมงคลเทพมุนีได้แสดงไว้ และอีกประการหนึ่งก็คือ ผลจากการปฏิบัติธรรมตามหลักสูตรที่ปรากฏในคำภิรฐนี้กับผลจากการปฏิบัติที่บันทึกในคำภิรฐพระกัมมัฏฐานอื่นๆ มีผลจากการปฏิบ้ออมาไม่ตรงกัน กล่าวคือสภาวธรรมของผู้เจริญภาวนาแต่ละท่านหรือแต่ละสำนักในสมัยนั้น จะเข้าถึงประสบการณ์ที่มีความลำบาก-ตัน ไม่เท่ากัน ถึงแม้จะเรียนและปฏิบัติตามหลักสูตรเดียวกัน ก็อาจจะไม่ต่อกัน เนื้อหาที่ปรากฏในคำภิรฐในภาษาเขมรโบราณนี้ อาจอี้ได้ว่าเป็นหลักฐานที่แสดงให้เห็นถึงร่องรอยของวิชาชาธรรมกายที่ขาดหายไปยาวนาน คงเหลือเพียงแค่บางส่วนของคำสอนที่คนสมัยโบราณได้