ข้อความต้นฉบับในหน้า
หลักฐานธรรมาภายในคัมภีร์พุทธโบราณ 1 ฉบับวิชาการ
ในวิชาชาธรรมาภาย อธิบายบุคคลแต่ละชั้นหมายถึงธรรมภายในระดับต่างๆ ส่วนในระดับเดียวกันนั้น ธรรมภายในยาบคือมรรค และธรรมภายในละเอียดคือ ผล ส่วนผู้เข้าถึงธรรมภายในคือมรรค จัดเป็นมรรคบุคคลที่อยู่ในระหว่างรอยต่อระหว่างโลกียะกับโลกุตระ20 ถ้าประมาทไม่ใส่ใจในการปฏิบัติพัฒนาจิตให้สะอาดบริสุทธิ์ยิ่งๆ ขึ้นไปก็จะถอยกลับมาสู่ความเป็นปุถุชนได้ แต่ถ้ามีความเพียรมั่นปฏิบัติดีกลาลจิตให้สะอาดบริสุทธิ์ยิ่งขึ้น ก็จะก้าวขึ้นสู่ความเป็นอรัญญบุคคลได้เช่นเดียวกัน ท่านจึงเปรียบโคตรบุคคลว่ามีเท้าข้างหนึ่งเหยียบอยู่บนฝั่งโลกะและอีกข้างหนึ่งเหยียบอยู่บนฝั่งโลกุตระ
ธรรมภายในประกอบด้วยธรรมขันธ์ ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นอสังขตะ ไม่มีปัจจัยปรุงแต่ง ซึ่งแตกต่างจากภายนุในระดับโลกะที่ยังประกอบด้วยอุปาทานขันธ์ 5 และจัดเป็นอสังขตธรรม
ด้วยธรรมจักฌานและญาณพักนะของธรรมภายใน พระอรหันต์เห็นแจ้งและรู้แจ้งชัดเจนว่าฝังเท่านี้พสังโยชน์ที่ผูกท่านไว้ในวัฏสงสารได้หยุดล้นออกไปหมดสิ้นแล้ว โดยเหตุนี้ท่านจึงประกาศได้ด้วยความแก่กล้ kraว่าภาพชาติของท่านสิ้นสุดแล้วและจะไม่มีการเวียนว่ายตายเกิดอีกต่อไป
20 “โคตรบุคคล” ในที่นี้ หมายถึงผู้ที่ถึงพร้อมด้วยคุณธรรมอันเป็นลำดับก่อนจะเข้าสู่อรัญธรรม (อภิป. 36/541/143) จึงเป็นบุคคลที่อยู่ระหว่างหัวต่อของความเป็นปุถุชนและอรัญบุคคล นับเป็นเนื้อแทบอัญเชิญพวกหนึ่ง (อง.นภก. 23/214/386) เป็นคนละความหมายกับ “โคตรฤกษ์” ซึ่งหมายถึงภิกษุไม่มีศิษในชาวจะสิ้นสุดสนา (ม.อ. 14/713/460)
72 | ดร.ชนิดา จันทารศ์โสภณ