ข้อความต้นฉบับในหน้า
เป็นไปได้ว่า การที่มีวิธีใคร่กล่าวว่าที่สุดความรู้เห็นจะรวมกลับเข้ามาภายในนั่น อาจมีความหมายในทำนองเดียวกัน คือได้พาผู้ปฏิบัติถึงจุดแห่งมรรยาทเบื้องต้นที่ถูกต้องแล้วซึ่งผู้ปฏิบัถยังจะต้องดำเนินต่อไปจากจุดนี้ยังมีได้หมายความว่าเข้าสู่ความเป็น " พุทธะ " แต่อย่างใด ซึ่งน่าจะตรงกันกับความหมายของคำว่า อภิญญา ของชาวพุทธมหายานบางกลุ่มที่ใช้กันรับเข้าในกลุ่มพระโพธิสัตว์ หรือชาวพุทธวัชชาร่านหรือด้นตระที่ใช้กับการรับเป็นศิษย์ที่จะรับถ่ายทอดวิชาจากครูโดยตรง ( Gómez 2003; Swearer 2003 )
ดังนั้น หากเปรียบเทียบกับหลักการของวิชชาธรรมกายแล้ว ภาพในสมาธิที่แสดงไว้มากมายนัน่จะอยู่ในระดับกูสมัตกิ แล้วไม่ใช่ว่าเป็นระดับของการเข้าสู่ดวงธรรม์หรือพระธรรมกายภายในแต่จะได้อย่างไรดีว่า การที่มีวิธีกล่าวถึงความรู้ที่มารวมหยุดอยู่ที่สวดนั้น อาจเป็นเครื่องหมายถึงการให้ความสำคัญกับบริเวณศูนย์กลางภายในในการตรัสรู้ธรรม ซึ่งนับว่าเป็นความสอดคล้องกันกับหลักการของวิชชาธรรมกายในแง่ของประวัติศาสตร์ คัมภีร์นี้ พบในภูมิภาคตะวันออกเฉียงเหนือของเอเชียกลาง คือในศิลีอันเป็นพื้นที่ที่ไม่เคยพบคัมภีร์มหายาน และการที่ตัวคัมภีร์จารึกบนเปลือกไม้เบิร์ช ซึ่งต่างจากคัมภีร์ที่คัดลอกในท้องถิ่น ทำให้ นักวิชาการบางท่านคิดว่า น่าจะเป็นคัมภีร์ที่นำมาจากแคชเมียร์อันเป็นณิฐฐานของชาวพุทธนิกายสรรพสัตว์มากกว่า เพราะคัมภีร์ของสรรพสัตว์ในแคชเมียร์รุ่นนั้นจะเขียนบนเปลือกไม้เบิร์ช อีกทั้งแนวทางการปฏิบัติที่ปรากฏในคัมภีร์นี้ก็ตรงกันกับที่สอนกันอยู่ในแวดงสรรวศรีตาในแคชเมียร์ด้วย (Ruegg 1967) แต่กระนั้นก็มิไมนักวิชาการอื่นบางท่านเห็นว่า คำสอนในคัมภีร์นี้