พันได้ (Wayman and Wayman 1990: 99)59
ศรีมาลาเทวีสีหนาทสูตรกล่าวถึงธรรมกายและตาฎกครภว่า ธรรมกายนั้นหาดเริ่มต้นมีได้ ไม่มีการเกิด เป็นอมหะ ไม่มีการตาย ถาว มั่นคง สงบ ดั่งตรงนี้รังสี โดยเนื้อแท้ปราศจากกิเลสทั้งหลาย กอบด้วยพุทธภาวะที่มีมากมายกว่ามิตดรายในแม่บังคงคา ซึ่งไม่แยกจากกัน รู้เห็นถึงความหลุดพ้น เลอะเอียดเกินว่าจัสัมผัสลูกต้องได้ ธรรมกายของตาฎกนี้เอง เมื่อยังไม่หลุดพ้นจากกิเลส เรียกว่าตาฎกครภ กล่าวโดยสรุปได้ว่าพระสูตรนี้ แสดงความหมายของตาฎกครภว่า หมายถึงธรรมกายของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่บริบูรณ์ด้วยพุทธคุณอันไม่มีประมาณที่ซ่อนอยู่ภายในบุคคลที่ยังมีกิเลสอยู่
แม้ตาฎกครภจะถูกปิดด้วยมวลกิเลส แต่ตาฎกครภนั่นก็คือ ธรรมธาดา, ธรรมกาย, โลกุตตรธรรม และธรรม นั่นเอง ดังนั้นรังสีม lalสูตรของฝ่ายหยายในกล่าวว่า ตาฎกครภะเป็นตัวอ่อนของธรรมธาดา, เป็นตัวอ่อนของธรรมกาย, เป็นตัวอ่อนของธรรมกาย
59 เรื่องความว่างและไม่ว่างในความหมายของคัมภีร์ศรีมหาเทวะสูตร มืออิปลายไว้โดยอธิบาย รายงานของ ชัยสิทธิ์ สุรนธารากุล (2557)
60 ...beginningless, uncreated, unborn, undying, free from death; permanent, steadfast, calm, eternal; intrinsically pure, free from all the defilement-store; and accompanied by Buddha natures more numerous than the sands of the Ganges, which are nondiscrete, knowing as liberated, and inconceivable. This Dharmakāya of the Tathāgata when not free from the store of defilement [i.e. the kleśas, ‘passions’] is referred to as the Tathāgatagarbha. (Wayman and Wayman 1974: 98) พระวิริย์ได้อธิบายเรื่องธรรมกาย ตาฎกครภะและอาลัยบัญญัติไว้ในรายงานการวิจัยของพระวิริย์ เตชญ์โสภ (2557)
บทที่ 3 ค้นธาระ เอเชียกลาง และประเทศจีน | 213