ข้อความต้นฉบับในหน้า
หลักฐานธรรมภายในคัมภีร์พุทธโบราณ 1 ฉบับวิชาการ
ออกจากกันและระบุอย่างชัดเจนว่า “กายของพวกพระองค์สำเร็จด้วยธรรม (ส. ธรรมมย)” ซึ่งบ่งบอกถึงทางเลือกในการตีความว่า “ธรรมกาย” ของชาวพุทธในท้องถิ่นนั้น ณ ช่วงเวลาของการค้นคว้าคัมภีร์39
อย่างไรก็ดี นับได้ว่าความหมายของธรรมกายอันเป็นภายในแท้ที่ประกอบด้วยธรรมของพระพุทธองค์นั้น เป็นสิ่งที่ชาวพุทธในโบราณยังรักษาไว้ได้อย่างดี
จะเห็นได้ว่าแนวคิดและข้อเขียนเกี่ยวกับการมองพระในฐานะที่เป็นธรรมกายนี้ มีในทุกยุคสมัยของปรัชญาปรามิตา ตั้งแต่ยุคแรกคืออัญมฤสาสาริกา ถ่ายทอดมาสู่ยุคของการขยายความดำริปรัชญาปรามิตา คือ ปัญจวิโศธาสภา และตกทอดต่อมาจนถึงยุคของตอกย้ำแนวคิดและรวบรวมเก็บใจความสำคัญ คือ ในคัมภีร์วัจรัชเจก
ความหมายของธรรมกายในคัมภีร์กลุ่มปรัชญาปรามิตาที่เชื่อว่าประพันธ์ขึ้นในรวงพุทธศตวรรษที่ 5 เป็นต้นมานั้นมีกำเนิดคัมภีร์หลายเหล่าให้เห็นจากปลายพุทธศตวรรษที่ 6 เรียมาจนถึงปัจจุบันและตรงกันกับที่ปรากฏในพระไตรปิฎกว่าสิ่งเป็นเครื่องรับรองความหมายของธรรมกายที่ใช้ในคำสอนนิมชาธรรมกายว่าเป็นความหมายเก่าแก่ในพระพุทธศาสนาแต่โบราณกาล
39 ศึกษารายละเอียดการเปรียบเทียบเพิ่มเติมได้จากรายงานวิจัยของ ชนิดา จันทารศรีโสภา (2557)
40 สำหรับความเก่าแก่และความสำคัญของข้อความนี้อธิบายไว้เชิงเป็นที่น่าเชื่อถืออย่างโร๊ดาม พอล วิลเลี่ยมส์ กล่าวว่า “there is a reasonable possibility that the Vajracchedikā in some form or another dates from a very early phase of Prajñāparāmita literary activity.” (Williams 2009, 49) อ้างอิงในรายงานการวิจัย พระวิริยะ เตชญาณ์โฐ (2557)
190 | ดร.ชนิดา จันทารศรีโสภา