ข้อความต้นฉบับในหน้า
ปันกเกรท่านนี้มีความประสงค์จะให้สามเณรพิจารณาให้เห็นซึ่งธรรมกายแห่งสมเด็จพระพุทธเจ้าด้วยญาณจักญาณ ด้วยสมารถแห่งการตรัสรู้พระอริยมรรค อันนับเข้าในพวกธรรมกายแห่งพระพุทธองค์นั้น
2.4.1.3. หนังสือพระปฐมสมโพธิถาของสมเด็จกรมพระปรมานุชิตชิโนรส ฉบับพิมพ์ครั้งที่ 3 หน้า 519 กล่าวถึงพระอุปคุตอันตรขอให้พญามารเนรมิตพระรูปภายของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าให้ดู ทั้งนี้เพราะตัวท่านเกิดมาในภายหลัง เมื่อพระองค์เสด็จปรินิพพานเสียแล้ว “เราได้เห็นแต่พระธรรมกาย มีได้ทันเห็นซึ่งพระสรีราย”
2.4.1.4. หนังสือพระปฐมสมโพธิแบบธรรมมุติตของสมเด็จพระสังฆราช (สา) หน้า 4 มีข้อความกล่าวถึงพระผู้มีพระภาคเจ้าว่า แม้อย่างเสด็จดับขันธปรินิพพานแล้ว นับว่าพระรุปลายเหลืออยู่ด้วยพระบรมสารริธ และมีพระธรรมกายยังคงอยู่ดั่งน้ำพระทัยก็ถอถูอุณหเนสรรพสัตว์ และด้วยพระคุณทั้งหลายที่เป็นอาสรรคะ เพราะคำสั่งสอนของพระองค์ยังคงอยู่และพระสงฆ์สาวกทีทรงธรรมยังมีอยู่
หน้า 9, หน้า 52 และหน้า 223 กล่าวถึงการบังเกิดของพระองค์ด้วยพระรูปไภยและพระธรรมกาย ซึ่งทั้งสองอย่างทำให้มนีโลกฅภุสนสะเทือนและมีแสงสว่างที่ไม่มีประมาณปรากฏขึ้น ในที่นี้ ท่านหมายเอาการตรัสรู้พระสัมมาสัมโพธิญาณว่าเป็นการเกิดด้วยธรรมกาย และจัดเป็นการเกิดโดยโลกลุตระ
2.4.1.5. หนังสือสวดมนต์แปลของพระธรรมปโมกข์ จตุสีโล พ.ศ. 2478 หน้า 189 มีข้อความสรรเสริญพระพุทธองค์ว่า พระสุดฅเจ้าเป็น