ข้อความต้นฉบับในหน้า
หลักฐานธรรมภิในคัมภีร์พุทธโบราณ 1 ฉบับวิชาการ
5. ธรรมภิยาเป็นภายในการตรัสรู้ธรรมที่เข้าสู่ได้โดยการปฏิบัติ และเมื่อเข้าสู่แล้ว ธรรมภิยาเข้าถึงนั่นเองเป็น “ตัวตนใหม่ที่จริงมากกว่า” ของผู้ที่เข้าสู่แทนกายภายนอกที่เคยยึดถือ ทั้งยังนำมาซึ่งความสุขสบายอันเลิศ (p. 287)
6. ธรรมภิยมีหลายระดับ สามารถพัฒนาจากระดับต้นขึ้นไปสู่ระดับสูงสุดได้ และเทียบได้กับโลกุตตรธรรม 4 และโลกุตตรผล 4 (p. 287)
7. คำว่าธรรมภิยที่พบในพระไตรปิฏกเจิน ในคัมภีร์อาคมเก่าแก่มีความหมายในทำนองเดียวกันกับที่พบในพระไตรปิฏกอรรถ ส่วนในอาคะมีร่องรอยว่าเขียนขึ้นหรือเติมเข้ามาในภายหลัง พบว่ากล่าวถึงธรรมภิยในความหมายของพุทธวจนที่พระอานนททรงจำไว้ (p. 281)
ความเข้าใจของชาวพุทธเรวรเกี่ยวกับธรรมภิยในรวะพุทธศาสนาที่ 10-12 ดังมีอรรถถถา และภูมิภาคบางส่วนเป็นตัวแทนดูยังตรงกันหรือใกล้เคียงกับความหมายดังเดิม ดังเช่นคัมภีร์วิสุทธิมรรรคและปรัชญานี้ ที่เชื่อมโยงธรรมภิยของพระพุทธเจ้าเข้ากับพระพุทธคุณ (Vism.I.227, ThrA.I.115) หรือพระบูรษิทธิคุณ (Vism.I.204, VinA.I.124, KhpA.108, Nd1.II.265) ของพระองค์ หรือเชื่อมโยงธรรมภิยเข้ากับการตรัสรู้ธรรมของบุคคลที่มีจิตบริสุทธิ์ (ItA.II.115) หรือผู้ที่สร้างบารมีมาถึงระดับหนึ่งแล้ว (ThrA.I.37) ส่วนผู้ที่ไม่ได้สร้างบารมีได้ชื่อว่าอยู่ห่างไกลธรรมภิย คัมภีร์ปรมัตโภติภากว่าอริยสาวกผู้เป็นโสดาบันอาจเห็นธรรมภิยของพระพุทธองค์ได้ด้วยปัญญาจักษุหรือโลภุตรจักษุด้วยการแทงตลอดอรยมรรค (SnA.I.34, UdA.310, ThriA.28) เมื่อเข้าสู่ธรรมหรณ์ก็หลุดพ้นจากนามภายในเพราะกำหนดธรรมนิยธรรม (SnA.