ข้อความต้นฉบับในหน้า
ผู้ใดดูเห็นแต่องกายก็เป็นแต่องกายเท่านั้น ผู้ใดดูเห็นถึงนามกาย ก็อาจเป็นนามกายก็ได้ แต่ต้องละทิ้งรูปกายเสียด้วย ผู้ใดดูเห็นธรรมกาย ผู้นั้นก็อาจเป็นธรรมกายได้ แต่ต้องละทิ้งกายอื่นๆ เสียให้หมด จึงจะเป็นธรรมกายแท้ เพราะธรรมกายเป็นธรรมชาติไม่รู้จักตาย (หน้า 228)
5. หนังสือ "ปรากฏเรื่องกายสาม" ของพระเทวมนี (ฝืน ธรรมประทีป ป.6) วัดบวรนิเวศวิหาร พิมพ์ในวันที่ 5 มกราคม 2492 กล่าวถึงกาย 3 ชั้น เช่นเดียวกัน คือ มนุษยกาย อันเป็นรังแห่งโรค ทิพยกายหรือเทวาย กายเทวดาและกล่าวถึง ธรรมนาย ในหน้า 60-63 ดังนี้ ... ธรรมกาย คือ กายธรรม เป็นกายชั้นละเอียดยิ่งอยู่ ไม่แปรผันเปลี่ยนแปลงเป็นอย่างอื่น ซึ่งเรียกว่า อสงไขยธรรม ธรรมไม่มมีปัจจัยปรุงแต่ง เป็นอมตธรรม ธรรมที่ไม่ตาย เป็นส่วนโลภะธาตุ หรือโลภาธรรม ไม่ใช่โลภะธาตุ หรือโลภียธรรม ... (หน้า 234)
จากเอกสารที่พระครูวานนามครูรวบรวมมาแสดงไว้ทั้งหมดนั้น ให้ภาพรวมชี้เจนว่า ธรรมกายเป็นที่รู้จัดในแวดวงชาวพุทธเราในประเทศไทยมานานแล้ว ในฐานะที่เป็นกายที่แท้จริงและเป็นแก่นสารที่อยู่ภายในของมนุษย์และสรรพสัตว์ เป็นกายที่ยั่งยืน มั่นคง เที่ยงแท้ และเป็นอสงไขย ไม่ถูกปรุงแต่งด้วยปัจจัยใดๆ