ข้อความต้นฉบับในหน้า
ฐานธรรมภายในคัมภีร์พุทธโบราณ 1 ฉบับวิชาการ
บทสรรเสริญนี้ กล่าวถึงพระพุทธองค์ว่าทรงประกอบด้วยพระธรรมกายและพระรูปกาย ทั้งพระรูปภายในและพระธรรมภายนอกมีเพื่อประโยชน์ของผู้อื่น คือตรงแสดงพุทธธรรมกายแก่ผู้มีศรัทธาจนหมดสิ้น และทรงแบ่งแยกพระรูปกายดั่งเมล็ดงา (เป็นพระบรมสาริริรกฤตู?)
ประเด็นที่ว่าพระพุทธองค์ทรงประกอบด้วยพระรูปภายในแยกจากพระธรรมกายั้น ตรงกับหลักการของวิชาชาธรรมกาย
ส่วนประเด็นที่ว่าทรงมีพระธรรมกายเพื่อประโยชน์ของผู้อื่นเท่านั้น มีความสดคล้องกันเพียงครึ่งหนึ่งกับหลักการของวิชาชาธรรมกาย กล่าวคือในหลักการของวิชาชาธรรมกายนั้น ธรรมกายมีเพื่อประโยชน์ของพระพุทธองค์เองและประโยชน์ผู้อื่นด้วย ในเรื่องประโยชน์ตน พระมงคลเทพมุนีกล่าวไว้ว่า
พระองค์ทรงอาศัยธรรมกายเพื่อทรัสฎเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า:
ธรรมกายนี้เองเป็นพระตรัสนะ ซึ่งเปลวว่าแก้วคือพุทธะ
(รร. 71)
พุทธะนั้นนั่นแหละท่านเป็นผู้ตรัส รัสรัษธรรมทั้ง ๔ เข้เป็นพระพุทธเจ้านี้เดียว เป็นเนมิดนามเกิดขึ้นเรียกว่า พุโฒ (รร. 421; ดูเพิ่มเติมใน 3.1.1, 3.1.4, รร. 17)
ธรรมกาย เข้าสันโตรภัคิ เรียกว่าโตรภูกต โตรภูบุคคลนี้สมบัติ เพ่งอธิษฐานสืบเป็นอนุโลม ปฏิโลม จนหลุดพันจากกิเลสพวกสักกายทุทธิ วิจิกิจฉา สีลพัทปรามาสแล้ว ตกศูนย์รับ กลับเป็นพระโสดาบัน ฯลฯ แล้วภายพระอนาคามิเดินสมบัติพออธิษฐาน ๔ ทำนองเดียวกันนั้นต่อไป ถึงที่สุดละ