ข้อความต้นฉบับในหน้า
หลักฐานธรรมภายในคำภีร์พุทธโบราณ 1 ฉบับวิชาการ
ทั้งหลายนนั้นมีตัวตนอยู่จริง กับคำสอนสาย “ปรัชญาปารมิตา” ที่สอนเรื่อง
สมญตาเข้าด้วยกันได้เป็นอย่างดี
ในมุมมองเชิงประวัติศาสตร์ การที่เนื้อหาพระสูตรแสดงถึงความ
พยายามใกล้เกลี้ยกล่อมของทั้งสองสายดังกว่านั้น บงชีว่า ก่อนหน้านการ
ประพันธพระสูตรนี้ ต้องมีการปฏิบัติแบบเห็นพระและความเชื่อว่ององค์พระ
นั้นเป็นตัวตนมาก่อนแล้ว ซึ่งพระสูตรนี้รับรองประสบการณ์ในการเห็นพระ
(หลักการของสายเห็นพระ) แต่สอนให้มองทุกอย่างว่างเปล่าเพื่อความไม่ยึด
มั่นถือมั่นในตัวตนใด ๆ ซึ่งเป็นหลักการของสายสุขฎา
หากมองในแง่ของความสอดคล้องกันกับหลักการของวิชชาธรรมภาย
นั้นว่าพระสูตรนี้สอดคล้องกันกับหลักการของวิชชาธรรมภายในแก่งของการ
ปฏิบัติที่รับรองประสบการณ์ในการเห็นพระพร้อมกับหลักในการวางใจ
ไม่ให้เกิดความยึดติดในสิ่งที่เห็น
เมื่อเห็นแสงสว่างอะไรปรากฏขึ้น ก็ให้ทำใจเฉยไวตรง
นั้น และถ้าเห็นวัตถุอะไรเป็นดวงไม้ใบไม้ ก้อนเมฆหรืออะไร
โผล่ขึ้นตรงนั้นก็เฝ้าดูสิ่งนั้นเรื่อยไป อย่าเลือกลอยนิ่งสิ่งอื่น
แล้วสิ่งที่เราเห็นนั้นจะเปลี่ยนแปลงไปเอง อย่ารู่นิ่ง อย่าร้าว
เห็นนั้นเห็นนี้ ทำถูกวิธีแล้วจะเห็นเอง เมื่ยังไม่เห็นอะไรอีก
อย่าเสียใจ จะต้องเห็นจนได้อย่างแน่นอนในอนเมื่อสายนไม่ต้องสงสัย เมื่อเห็น
แล้วอย่าดีใจ วางใจเฉยๆ ไว้ ดูเรื่อยไปตามปกติ อย่าตื่นเต้น อย่าดีใจ อย่าเสียใจ (ดู 2.2.1)
270 | ดร.ขนิษา จันทราศรีโสฬ