ข้อความต้นฉบับในหน้า
หลัการฐานธรรมภายในคัมภีร์พุทธปร ะวาณ 1 ฉบับวิชาการ
ข้อความนี้ กล่าวถึงธรรมยาของพระพุทธเจ้าเปนอนิจจาย คือไม่พึงคิด หรือไม่อาจหยั่งถึงได้ด้วยการใช้ความคิด คาดคะเน หรือการให้เหตุผลด้วยตรรกะใดๆ ซึ่งหากถือว่า ธรรมายในนี้หมายถึงพระพุทธคุณ กันว่าเป็นหลักการที่สอดคล้องกันกับที่กล่าวไว้ในพระไตรปิฎกวาล ดั้งที่มีกล่าวไว้ในพระไตรปิฎกอีกองค์คือสิ่งที่ไม่ผิด ค 4 ประการ ได้แก่ พุทธวิสัย มาน วิสัย กรรมวิภาค และความคิดเรื่องโลก ทั้งสิ่งนี้ไม่ควรคิด ผู้ที่คิดจะพิพ มส่วนแห่งความเป็นบ้า เดือร้อน (อง.จตุก. 21/77/104)
ในหลักการของวิชชาธรรมภาย แม้ว่าพระมงคลเทพมุนีจะไม่ได้กล่าวคำว่า “อนิจจาย” โดยตรง แต่การที่ท่านกล่าวถึงพระพุทธคุณและพระธรรมยาว่าไม่มีประมาณนั่นก็ว่านับว่านัยเดียวกัน คืพระคุณของพระพุทธองค์นั้นเกินกว่าจะหยั่งถึงได้ด้วยความตรีกิณีคิดเห็นใดๆ
ถึงพระพุทธเจ้า ก็คือถือธรรมภาย ถึงธรรมภายก็เหมือนถึงพระพุทธเจ้า ถึงธรรมภายได้ ไปกับธรรมภายได้ ไปนิพพานได้ ไปนิพพานได้ ผู้เข้าถึงไตรสรณคมน์ ถึงพระพุทธนะเช่นนี้ละก็ จะรู้จักคุณพระธรรมนะว่า ให้ความสุขเต็มแต่ใคร บุคคลผู้ใดเข้า ถึงแล้วก็ปลาบปลื้มเอ็นอิ่มตันเต็ม สบายอกสบายใจเพราะพระ พุทธนะบันดาลสุขให้แล้ว ส่งความสุขให้แล้ว ถึงว่าจะให้ความสุขสักเท่าไร มากน้อยเท่าไร ตามความปรารถนา สุขกายสบายใจ เรามีอายุยืนเจริญหน้าเข้า มีอายุยืน ทำหน้ากเข้า ทำชำนาญ หนักเข้าในพุทธรัตนะมีคุณอเนก เวลาเจ็บก็ไม่อาดูรเดือดร้อน ไปตามกาย เวลาจะตายก็ยิ้มสุขายอ่กสบายใจ เห็นแล้วว่า