ข้อความต้นฉบับในหน้า
หลัการธรรมมาภายในคัมภีร์พุทธโบราณ 1 ฉบับวิชาการ
นิพพานซึ่งเป็นจุดหมายของการปฏิบัติ ย่อมชี้ให้เห็นว่า “ดวงแก้วที่ข่มมา” คือ นิพพานที่กำลังพยายามจะไป ดังนั้นการไปสู่นิพพานก็อคือการกลับไปสู่กำเนิด ดังเดิมที่บริสุทธิ์นั่นเอง
อาจกล่าวอีกนัยหนึ่งได้ว่า มนุษย์มีจิตดังเดิมที่บริสุทธิ์ซึ่งอาจพ้องกับ ศัพท์ “โพธิ” หรืออาจพ้องกับกฤษฏีตาคตภคตรภะ เมื่อมาแปดเปื้อนเพราะ บาปธรรมจิตจึงหม่นหมอง แม้จะมีโพธิอยู่ในตนก็ยังไม่อาจบรรลุโพธิ์นั่นได้ เพราะมือวิชชาบดบังและมีบาปธรรมครอบงำอยู่ ต้องปฏิบัติภาวนาาสอัน เป็นหนทางเดียวที่จะกลับไปสู่อดีตเดิมอันบริสุทธิ์นี้ (Zimmermann 2002: 62) แนวคิดนี้ข้อความสนับสนุนในคัมภีร์ว่าระบุว่าว่า “ตั้งใจงั้นน่าใจให้ ชื่อใสบริสุทธิ์ทันใด เอาคลองนิพพานเป็นอารมณ์ แม่ว่าจักบริจารณาเป็น พระพุทธเจ้าดีี่ย่อมจักได้” (บรรจ. 1.26.3) ข้อความแสดงถึงความเป็นไป ได้ที่บุคคลจะกลับไปเป็นพพาน ซึ่งเป็น “ดวงแก้วที่ข่มมา” เป็นการคืนสู่สภาวะ บริสุทธิ์ และมีผลทำให้บุคคลเป็นพระพุทธเจ้าได้ตามปรารถนา
ในเรื่องนี้ พระมงคลเทพมุนีเคยแสดงธรรมไว้ในทำนองเดียวกันว่า พระองค์ทรงสอนไว้ในทางปฏิสัมภาษว่า ธรรมดาจิตนี้ใส บริสุทธิ์อยู่เสมอ ซึ่งหมายความว่า จิตที่ไม่มีโลกลาภผลส่วนพวก กิเลส เช่น โโลภะ เรียกว่าเป็นของจรมา เมื่อมาพ้องจิต ก็ ย่อมจิตให้เป็นไปตามสภาพอันชั่วช้าของกิเลสนี้จึงตระคนด้วย