ข้อความต้นฉบับในหน้า
หลักฐานธรรมภายใต้คัมภีร์พุทธโบราณ 1 ฉบับวิชาการ
ผลจากนโยบายเผยแผ่ของพระเจ้าโกคาทั้งนี้พระเจดีย์ส่วนใหญ่ต่างผงไปตามกาลเวลา แต่อีกยังมีการค้นพบบางองค์ที่ยังหลงเหลือ ซึ่งได้รับการบูรณะแก่ชมให้มีสภาพดีอยู่ถึงปัจจุบัน เช่น พระเจดีย์ตำไม่ไก (大白塔) พระเจดีย์ย๋อโคมมหาราชแห่งวัดฝาเหมิน (法門寺阿育王塔) พระเจดีย๋อโยคมหาราชแห่งเหลียนหยุนก้ง (連雲港阿育王塔) พระเจดีย๋อโยคมหาราชแห่งหนิงปอ (寧波阿育王寺塔) เป็นต้น
อย่างไรก็ดี พระภิกษุและนักวิชาการชาวจีนบางส่วนเชื่อว่าพระเจดีย์เหล่านี้อาจไม่ได้สร้างขึ้นในยุคพระเจ้าโกคา จริง เป็นแต่เพิ่งตั้งชื่อมาตามพระเจ้าโกท่านั้น และนั่นหมายความว่าบางทีพระพุทธศาสนาอาจยังไม่ได้เข้าสู่ประเทศจีนในยุคพระเจ้าโกก็เป็นได้
แต่กระนั้น งานวิจัยของกุมาร (Kumar 2005: 34) อ้างอิงบันทึกในหนังสือ Hongming ji (弘明集) ที่ระบุว่าในรัชสมัยของจิ้นซื่อเหล้าต์ พ.ศ. 284-333 เคยมีคณะพระธรรมนูญต้นโดยพระศรีพันธุ์ (ชื่อสั่นง 證闡) เดินทางมาสู่ราชสำนักจีนพร้อมด้วยพระคัมภีร์จำนวนหนึ่ง แต่ในครั้งนั้นจิ้นซื่อเหล้าต์ไม่ทรงประสงค์ที่จะรับเอาพระพุทธศาสนาซึ่งเป็นของต่างชาติ จึงทรงบัญชาให้ส่งขังคูพระศรีพันธุ์และคณะไว ในคืนวันคูก็ถูกเปิดออกและคณะพระศรีพันธุ์ได้รับการปล่อยตัวออกมาโดยบูรพาร่างส่องสูง 16 ฟุต เหตุการณ์อัศวรรย์นี้ทำให้จีนเชื่อว่างเตทรงเกิดความเลื่อมใส และได้คุกเข่ากับพระเสียของพระองค์คั่งกับพื้นที่เพื่อถวายความเคารพและขอขมาในสิ่งที่ทรงกระทำลงไป (Zürcher 2007: 20)
120 | ดร.ชนิดา จันทร์ศรีโสฬ