อภิธัมมัตถสังคหบาลี และอภิธัมมัตถวิภาวินีฎีกา อภิธัมมัตถสังคหบาลี และอภิธัมมัตถวิภาวีนีฎีกา หน้า 16
หน้าที่ 16 / 442

สรุปเนื้อหา

ในเอกสารนี้ได้กล่าวถึงอภิธัมมัตถสังคหบาลี โดยเฉพาะการอธิบายผลสัมปทาและเหตุสัมปทาที่ท่านพระอนุรุทธาจารย์ได้แสดงไว้ ผ่านบทเรียนที่หมายถึงผลสัมปทาอันเกี่ยวข้องกับสัตว์ทั้งหลาย พร้อมทั้งการถวายความนอบน้อมแด่พระรัตนะ เพื่อชี้ให้เห็นความสำคัญของพระธรรมและพระสงฆ์ที่เป็นผู้ควรกราบไหว้ สะท้อนถึงความสัมพันธ์อันยิ่งใหญ่ระหว่างพุทธศาสนิกชนและหลักธรรมอันสำคัญ ท่านอาจารย์ยังชี้ให้เห็นว่า พระธรรมมีสมบัติในการรักษาสัตว์ทั้งหลายไม่ให้ตกไปในอบายซึ่งเป็นการสร้างพื้นฐานที่มีคุณค่าทางจิตใจอย่างสูงสำหรับผู้ที่ปฏิบัติตาม

หัวข้อประเด็น

-อภิธัมมัตถสังคหบาลี
-ผลสัมปทา
-เหตุสัมปทา
-พระธรรมและพระสงฆ์
-การน้อมนอบแด่พระรัตนะ

ข้อความต้นฉบับในหน้า

ประโยค - อภิธัมมัตถสังคหบาลี และอภิธัมมัตถวิภาวินีฎีกา - หน้าที่ 16 นั้น ชื่อปโยคะ ฯ บรรดาสัมปทา ๓ อย่าง มีเหตุสัมมปทาเป็นต้นนั้น ผลสัมปทา ๒ อย่างข้างต้น ท่านพระอนุรุทธาจารย์แสดงแล้วด้วยบทว่า สมฺมาสมฺพุทฺธ์ นี้ฯ ส่วนผลสัมปทา ๒ อย่างนอกนี้ กับทั้งสัตตูปการ สัมปทา แสดงด้วยบทว่า อตุล นี้ ฯ ส่วนเหตุสัมปทาอันเป็นเหตุแห่ง ผลสัมปทาและสัตตูปการสัมปทานั้น ท่านแสดงแล้วแม้ด้วยบททั้ง ๒ โดยความเป็นบทสามารถ เพราะสมบัติแห่งสัมทาทั้ง ๒ นั้นไม่มี โดย เว้นจากเหตุเช่นนั้น และเพราะผลสัมปทาและสัตตูปการสัมปทานั้น มี ความเกี่ยวข้องในบุคคลทุกจำพวก ในเมื่อสมบัติแห่งสัมปทาทั้ง ๒ นั้น ไม่มีเหตุ ฯ ท่านอาจารย์ ครั้นถวายนมัสการพระพุทธรัตนะนั้น ซึ่งมีการสดุดี ที่สงเคราะห์ด้วยข้อกำหนด ๓ ประการเป็นหลักสำคัญ ด้วยประการ ฉะนี้แล้ว บัดนี้ เมื่อจะเริ่มคำนอบน้อมแด่พระรัตนะที่เหลือ จึงกล่าว ว่า สสทฺธมฺมคณุตฺตม์ ฯ [อธิบายพระธรรมและพระสงฆ์] แท้จริง ความที่พระธรรมและพระสงฆ์ แม้เป็นผู้มีคุณ (แม้เป็น รัตนะที่เพิ่มขึ้น) ก็เป็นผู้ควรกราบไหว้ บัณฑิตย่อมทราบได้โดย ประกอบ สห ศัพท์ไว้ เปรียบเหมือนเมื่อชนกล่าวว่า (บิดา) มาพร้อม ทั้งบุตรและทาระ คนอื่นก็ทราบการมาแม้ของบุตรและทาระได้โดย ประกอบ สห ศัพท์ไว้ฉะนั้น ๆ บรรดาพระธรรมและพระสงฆ์นั้น สภาพที่ชื่อว่าธรรม เพราะ อรรถว่า ทรงไว้ซึ่งสัตว์ทั้งหลายผู้ทรงตนไว้ ไม่ให้ตกไปในอบาย 4
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

หนังสือที่เกี่ยวข้อง

Load More