ข้อความต้นฉบับในหน้า
จารณาฯ
ประโยค - อภิธัมมัตถสังคหบาลี และอภิธัมมัตถวิภาวินีฎีกา - หน้าที่ 66
วิปัสสนาที่เป็นวุฏฐานคามินีฯ วิปัสสนาที่เป็นวุฏฐานคามินีนั้นแลเป็น
ไปแก่บุคคลผู้พิจารณาฌานใด ๆ ฌานนั้น ๆ ชื่อว่าฌานที่พิจา
อัธยาศัยที่เกิดแก่พระโยคาวจรอย่างนี้ว่า ไฉนหนอ มรรคเหมือนกับ
ปฐมฌานของเรา จึงมีองค์ ๕ หรือมรรคที่ต่างโดยมรรคมีองค์ ๔
เป็นต้น เหมือนกับบรรดาทุติฌานเป็นต้น อย่างใดอย่างหนึ่ง (
ง (พึง
มีองค์ ๔) ชื่อว่าอัธยาศัยของบุคคลฯ บรรดาฌานที่เป็นบาทเป็นต้นนั้น
มรรคเป็นของที่บุคคลผู้ซึ่งเข้าฌานอย่างใดอย่างหนึ่ง ในบรรดาฌาน
มีปฐมฌานเป็นต้น ออกจากฌานที่เข้านั้นแล้ว พิจารณาปกิณณก
สังขาร (สังขารอื่นจากฌานที่เข้า) ให้เกิดขึ้นแล้วนั้น เป็นเหมือนกับ
ฌานที่เป็นบาทนั้น ๆ มีปฐมฌานเป็นต้นฯ ก็ถ้าว่า ฌานที่เป็นบาทของ
วิปัสสนาชนิดใดชนิดหนึ่งไม่มี, มรรคของบุคคลผู้พิจารณาบรรดาฌาน
มีปฐมฌานเป็นต้น ฌานชนิดใดชนิดหนึ่งอย่างเดียวแล้วให้เกิดขึ้นนั้น
ก็เป็นเหมือนกับฌานที่พิจารณาฯ แต่หากว่า มรรคที่เป็นฌาน
ชนิดใดชนิดหนึ่ง (มีปฐมฌานเป็นต้น) แล้วพิจารณาฌานอื่น (มี
ทุติฌานเป็นต้น) จากฌานที่เข้านั้นแล้วให้เกิดขึ้นในเวลานั้น มรรค
ก็เป็นเหมือนกับฌานอย่างใดอย่างหนึ่ง บรรดาฌานที่เป็
บรรดาฌานที่เป็นบาทและ
ฌานที่พิจารณาทั้ง ๒ ด้วยอำนาจอัธยาศัยของบุคคลฯ ก็ถ้าหากว่า
อัธยาศัยอย่างนั้นของบุคคลไม่มี ฯ มรรคที่บุคคลออกจากฌานชั้นต่ำๆ
แล้วพิจารณาธรรมชั้นสูง ๆ ให้เกิดขึ้น ย่อมเป็นเหมือนกับฌานที่
พิจารณาไม่เล็งถึงฌานที่เป็นบาท, แต่มรรคที่บุคคลออกจากฌานชั้นสูง ๆ
แล้วพิจารณาฌานธรรมชั้นต่ำ ๆ ให้เกิดขึ้น ย่อมเป็นเหมือนกันฌานที่