ข้อความต้นฉบับในหน้า
ๆ
ประโยค - อภิธัมมัตถสังคหบาลี และอภิธัมมัตถวิภาวีนีฎีกา - หน้าที่ 375
เป็นอุปการะ เพราะอรรถคือเป็นเหตุนำออกจากสุคติหรือทุคติ จาก
บุญหรือบาป ชื่อมัคคปัจจัย ฯ นามธรรมนั่นเอง ถึงแม้จะต่างกันโดย
ปรมัตถ์ ก็เป็นดุจถึงความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน (เอกภาพ) ก็เป็น
อุปการะโดยลักษณะคือสัมประโยค กล่าวคือมีความเกิดขึ้นเป็นอันเดียว
กันเป็นต้น ชื่อสัมปยุตตปัจจัย ฯ วัตถุ (หทยวัตถุ) จิต และเจตสิก
ถึงแม้เป็นธรรมประกอบกัน โดยความเป็นธรรมที่เกี่ยวเนื่องกันและกัน
ๆ
ก็เป็นอุปการะด้วยการเข้าถึงความต่างกันโดยเป็นธรรมไม่รวมกัน เพราะ
แยกจากกัน ชื่อวิปปยุตตปัจจัย ฯ ธรรมซึ่งท่านอาจารย์กล่าวไว้ด้วยคำ
เป็นต้นว่า สหชาติ (เกิดร่วมกัน) ปุเรชาติ (เกิดก่อน) ชื่อว่าเป็น
อุปการะ เพราะเป็นการอุปถัมภ์แก่ธรรมเช่นนั้นนั่นแล โดยเป็นธรรม
มีอยู่ อันมีสภาพเป็นปัจจุบัน ชื่ออัตถิปัจจัย ฯ แม้เมื่อมีกรรมผู้ให้เกิด
ความขวนขวายแห่งอัตถิปัจจัยเหล่านั้นค้ำจุนไว้นั้นแล ท่านอาจารย์
ถือเอาแล้ว ด้วยคำว่า สหชาติ เป็นต้น ฯ
จิตและเจตสิกซึ่งดังไปไม่มีระหว่าง เป็นอุปการะ ด้วยอำนาจ
แห่งการให้โอกาสแก่จิตและเจตสิกที่จะเกิดขึ้นในอันดับติดต่อกันไป ซึ่ง
ยังไม่ได้โอกาส เพื่อความตั้งอยู่ของตน เพราะเมื่อหมวดธรรมมีผัสสะ
เป็นต้น หมวดหนึ่ง เป็นไปอยู่ หมวดธรรมที่ ๒ มีผัสสะเป็นต้นก็มี
ไม่ได้ ชื่อนัตถิปัจจัย ฯ ธรรมทั้งหลายที่อุปการะจริง ๆ แก่ธรรม
ทั้งหลายซึ่งจะเป็นไปไม่ได้ โดยสภาพของตนไม่หมดไป โดยเป็นธรรม
(ยอม) จากไปเสีย ชื่อวิคตปัจจัย ฯ อัตถิปัจจัยนั่นเอง เป็นอุปการะ
ๆ