ข้อความต้นฉบับในหน้า
ประโยค - อภิธัมมัตถสังคหบาลี และอภิธัมมัตถวิภาวีนีฎีกา - หน้าที่ 420
แก่อภินิหาร (ควรแก่การส่งบริกรรมจิตไปเพื่อต้องการบรรลุอภิญญา)
เข้าปัญจมฌานที่เป็นรูปวจรนั่นแล เพราะประกอบด้วยอุเบกขาและ
เอกัคคตา และเพราะเป็นฌานสมควร คือฌานที่ ๕ นั้น ซึ่งมีปฐวีกสิณ
เป็นต้นเป็นอารมณ์อันเป็นบท คือเป็นที่ตั้งแห่งอภิญญา แล้วออกจาก
ฌานที่ ๕ นั้น ฯ คำว่า อธิฏเฐยุยาทกมาวชุชิตวา ความว่า รำพึงถึง
รูปเป็นต้น มีจำนวนตั้ง ๑๐๐ รูปเป็นอาทิ ที่ควรอธิษฐาน คือควรทำให้
เป็นต่างๆ ในเวลาบริกรรมแห่งอิทธิวิธญาณก็ดี ถึงเสียงต่างด้วยเสียง
หยาบและเสียงละเอียดในเวลาบริกรรมแห่งทิพพโสตก็ดี ถึงจิตของคน
อื่นต่างด้วยจิตมีราคะเป็นต้น ด้วยการเห็นสีที่เป็นไปในหทัย ในเวลา
บริกรรมแห่งเจโตปริยญาณก็ดี ถึงขันธ์ที่เคยอาศัยอยู่ในกาลก่อน อัน
ต่างด้วยจุติจิตเป็นต้นในภพก่อน ๆ ในสมัยแห่งบริกรรมของปุพเพนิวา
สานุสสติญาณก็ดี ถึงรูปที่เป็นไปในที่มีแสงสว่างแผ่ไปถึง ในสมัยบริ
กรรมแห่งทิพยจักษุก็ดี ฯ สองบทว่า ปริกมุม กโรนฺตสฺส คือ
เมื่อพระโยคีกระทำบริกรรมโดยนัยเป็นต้นว่า เราจงเป็น ๑๐๐ คน ๆ ฯ
บทว่า รูปาทีสุ ได้แก่ ในอารมณ์ทั้งหลาย อันต่างด้วยอารมณ์มีรูป
ฌานที่เป็นบท เสียง จิตของอื่น และขันธ์ที่เคยอาศัยอยู่ในกาล
ก่อนเป็นต้น ซึ่งเป็นอารมณ์แห่งบริกรรมฯ
બૈ
[อธิบายอารมณ์ของอภิญญา ๕]
จริงอยู่ บรรดาอารมณ์มีรูปเป็นต้น อิทธิวิธญาณ มีอาลัมพนะ
(อารมณ์) 5 อย่างก่อน คือ ฌานที่เป็นบาท ๑ กาย ๑ อารมณ์ 4
มีรูปเป็นต้น ในที่เป็นที่อธิษฐานรูปเป็นต้น ฯ บรรดาอารมณ์มีฌาน