ข้อความต้นฉบับในหน้า
ประโยค - อภิธัมมัตถสังคหบาลี และอภิธัมมัตถวิภาวีนีฎีกา - หน้าที่ 389
ด้วยคำอันเป็นกัมมสาธนะนี้ ท่านอาจารย์กล่าวอรรถบัญญัติ กล่าวคือ
อุปาทาบัญญัติ อันเป็นสมมติสัจจะ ซึ่งต่างโดยเป็นความประชุมและ
ความสืบต่อเป็นต้น แห่งธรรมทั้งหลายมีรูปเป็นต้น และความกำหนด
พิเศษเป็นต้น ฯ แท้จริงอรรถบัญญัตินั้นบัณฑิตย่อมรู้ได้ด้วยนามบัญญัติฯ
บทว่า ปญฺญาปนโต คือ เพราะรู้อรรถบัญญัติโดยประการทั้งหลาย ฯ
จริงอยู่ ด้วยคำที่เป็นกัตตุสาธนะนี้ ท่านกล่าวนามบัญญัติ คือการกล่าว
อรรถทั้งหลายอันได้นามว่าบัญญัติ เพราะอรรถว่า ให้รู้ (ความ) ได้ฯ
คำว่า ภูตปริณามาการมุปาทาย ความว่า บัญญัติเทียบเคียงอาการที่เปลี่ยน
แปลง ได้แก่อาการกล่าวคือสภาพที่เปลี่ยนแปลง โดยอาการเป็นต้นว่า
การแผ่ขยายออกไปและรวมตัวเข้าแห่งมหาภูตมีแผ่นดินเป็นต้น ซึ่ง
เป็นไปอยู่ ด้วยอำนาจแห่งความสืบต่อ คือทำให้เป็นเรื่องอิงอาศัย ฯ
คำว่า ตถา ตถา คือ ด้วยอำนาจแห่งแผ่นดินเป็นต้นฯ คำว่า
ภูมิปพฺพตาทิกา ได้แก่ สันตานบัญญัติ (บัญญัติความสืบต่อกัน) มี
แผ่นดิน ภูเขา และต้นไม้เป็นต้นฯ คำว่า สมภารสนฺนิเวลาการ์
ความว่า อาการกล่าวคือการประชุม ได้แก่อาการมีสัณฐานเป็นต้นนั้น ๆ
อันวิเศษโดยการตกแต่งแห่งสัมภาระคือแห่งอุปกรณ์ มีไม้ ดินเหนียว
และด้ายเป็นต้น ฯ คำว่า รถสกฏาทิกา ได้แก่ สมุหบัญญัติ (การ
“บัญญัติโดยรวมกัน) มีรถ เกวียน บ้าน หม้อน้ำ และแผ่นผ้าเป็นต้นฯ
คำว่า จนฺทาวฏฺฏนาทิกก์ ได้แก่ อาการคือการที่ดวงจันทร์ ดวงอาทิตย์
และดาวนักษัตร หมุนเวียนไปมีอุทัยขึ้นเป็นต้น ด้วยอำนาจแห่งการ